ประเดิมเมืองกรุงเก่าเป็นแห่งแรก ทำกรมธรรม์ประกันภัยรถรางล้อยางนำเที่ยว เพิ่มความมั่นใจใช้บริการ

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากสถิติด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยปี 2561 พบว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจำนวน 38.27 ล้านคน มีรายได้ 2.01 ล้านล้านบาท และมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 164.24 ล้านคน มีรายได้ 1,068.18 พันล้านบาท โดยแนวโน้มการท่องเที่ยวปี 2562 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 41.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.5% สร้างรายได้ 2.21 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น10% ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จนปัจจุบันประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอับดับ 4 ของโลก

นายสุทธิพล  กล่าวว่า ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหนึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมอันดับต้นของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เนื่องจากเป็นจังหวัดองค์กรการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศให้ขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา   เป็น “เมืองมรดกโลก” เมื่อปี 2534  และกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจใช้บริการคือ การนั่งรถรางล้อยาง เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ภายในอุทยานที่อยู่ในเกาะเมือง (อำเภอพระนคร) หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของแต่ละอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ด้วยการใช้รถรางล้อยางนำเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงไม่ได้อยู่ในสถานที่ปิดเหมือนรถรางของจังหวัดอื่น ดังนั้นความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุของรถรางล้อยางจึงมีความเสี่ยงมากกว่าเพราะเป็นการใช้งานในถนนสาธารณะ

นายสุทธิพล กล่าวว่า จึงได้ทำโครงการ “ส่งเสริมและสนับสนุนให้รถรางล้อยางนำเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดต้นแบบในการจัดทำ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ” โดยรถรางล้อยางนำเที่ยว เครื่องยนต์ขนาด 2,400 ซี.ซี. และใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนยนต์ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อเครื่อง รถยนต์โดยสาร รถบรรทุก หัวรถลากจูง รถพ่วง รถบดถนน รถอีแต๋น เป็นต้น สามารถทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด จึงตรวจสอบข้อมูลรถรางล้อยางนำเที่ยว 14 คันภายใต้การดูแลของศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า 9 คัน ไม่มีหมายเลขตัวถังจึงไม่สามารถจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) สำนักงาน คปภ. จึงประสานงานสำนักงานขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดทำหมายเลขตัวถังรถรางล้อยางนำเที่ยวดังกล่าวเพื่อให้สามารถจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จนประสบความสำเร็จ ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นในการใช้บริการรถรางล้อยางนำเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย

ทั้งนี้ วันที่ 1 กรกฎาคม ได้เริ่มมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้กับรถรางล้อยางนำเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นกรมธรรม์ประกันภัยรถรางล้อยางนำเที่ยวฉบับแรกของไทย มีผลความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุแก่นักท่องเที่ยวที่โดยสารในรถรางล้อยางนำเที่ยวที่มีการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ในกรณีที่นักท่องเที่ยวบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาล วงเงินคุ้มครองสูงสุด 80,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต วงเงินคุ้มครองสูงสุด 300,000 บาท นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นภายใน 7 วัน โดยไม่รอพิสูจน์ความรับผิดแก่ผู้ประสบภัย ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000บาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image