นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอลล์ บริษัท สิงห์คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดน้ำดื่มมีมูลค่าอยู่ที่ 46,000 ล้านบาท โตประมาณ 10% ซึ่งมีแนวโน้มขยายการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ปกติแล้วตลาดน้ำดื่มรวมจะโตบวกหรือลบไม่เกิน 10% แต่ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาพบว่า ตลาดน้ำดื่มโตเร็วมาก เพราะได้อานิสงค์จากอากาศที่ร้อนจัดในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้น้ำดื่มมียอดขายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯถือครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ซึ่งในเดือนมกราคม-พฤษภาคม มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 22.1% และตั้งเป้าว่าปีนี้จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้ที่ 23-24% พร้อมตั้งเป้าในปี 2563 จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 25%
นายธิติพร กล่าวว่า หลังจากบริษัทฯได้ออกแคมเปญ “ดื่มสิ่งที่ใช่ให้ตัวเอง” โดยได้นำเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะในระบบ Smart Micro Filter เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มคุณภาพให้น้ำดื่มสิงห์เป็นน้ำดื่มสะอาด ที่มีแร่ธาตุที่เหมาะสมกับร่างกายของผู้บริโภคหลงเหลืออยู่ พร้อมทั้งดึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกเพศและทุกวัยในวงกว้าง ทำให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 น้ำดื่มสิงห์มีการเติบโตด้านยอดขายสูงอย่างมาก
“บริษัทฯได้เข้ามาเล่นในตลาดน้ำดื่มขนาด 330 มิลลิลิตร ออกแบบเป็นลายการ์ตูนมายลิตเติ้ลโพนี่ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กอายุ 4-12 ปี เพราะขณะนี้น้ำดื่มสิงห์เป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของผู้บริโภคในกลุ่มที่มีอายุ ส่วนในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นถึงแม้จะรู้จักในแบรนด์ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นน้ำดื่มแบรนด์แรกที่นึกถึง ทำให้หากสามารถเจาะกลุ่มเด็กให้รู้จักแบรนด์ได้ ก็เชื่อว่าในอนาคตหากเด็กเหล่านี้รู้ประโยชน์ของน้ำดื่มสิงห์มากขึ้น พอโตขึ้นก็จะยังเลือกบริโภคน้ำดื่มแบรนด์เดิมไม่เปลี่ยน โดยขณะนี้น้ำดื่มสิงห์ลายมายลิตเติ้ลโพนี่ ได้มีการเข้าไปอยู่ในโรงเรียนแล้วกว่า 180 โรงเรียนทั่วประเทศ รวมถึงมีร้านค้านำไปจำหน่ายแล้วกว่า 8,000 ร้านค้าทั่งประเทศ ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน”นายธิติพรกล่าว
นายธิติพร กล่าวว่า แผนงานในครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทฯจะเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงอายุ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงได้ทำแคมเปญ”สิงห์ รีวอร์ด”รอยัลตี้โปรแกรมเพื่อสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในการสะสมคะแนนใต้ฝาน้ำดื่มสิงห์และน้ำแร่เพอร์ร่า เพื่อนำคะแนนแลกรับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ รางวัลส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์ดัง การร่วมกิจกรรมพิเศษต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานในสิงห์รีวอร์ดแล้วกว่า 8,000,000 ราย ซึ่งความท้ายทายอยู่ที่ การดึงให้ทุกผู้ใช้งานอยู่ในระบบและมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องต่อไป
“บริษัทฯจะทำความรู้จักกับผู้บริโภคในเรื่องความแตกต่างของน้ำดื่มสิงห์ ซึ่งตอนนี้มีเข้าใจแค่ 20% จากตลาดรวม โดยราดว่าภายใน 3 ปีจะสามารถทำให้ผู้บริโภคอีก 80% เข้าใจความแตกต่างนี้ได้ พร้อมทั้งมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต ด้วยการเพิ่มเครื่องจักรอีก 1 เครื่องในปี 2563 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,880 ล้านลิตรต่อปี จากเดิมที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,680 ล้านลิตรต่อปี โดยต้นทุนเครื่องจักร 1 เครื่องจะอยู่ที่ 360 ล้านบาท”นายธิติพรกล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
