นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันที่11 กรกฎาคม เปิดระดับ30.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับ30.81 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน ในคืนที่ผ่านมาแถลงการณ์ของนายเจอโรมพาวเวลล์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต่อสภาคองเกรสได้ส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมที่จะลดดอกเบี้ยเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ท่ามกลางปัจจัยความเสี่ยงทั้งสงครามการค้าและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว มุมมองดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงดัชนีS&P500 ปิดบวก0.5% ทำสถิติจุดสูงสุดเป็นประวัตการณ์ราคาทองคำดีดตัวขึ้นกว่า1.5% สู่ระดับ1,418.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็พุ่งขึ้น3.7% หลังได้รับแรงหนุนจากทั้งนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบคงคลังลดลง9.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับวันนี้ตลาดจะพุ่งความสนใจไปที่รายงานการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ที่คาดกันว่าจะเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้นเช่นกัน
นายจิติพล กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวหลักในตลาดเงินแทบทุกสกุลแข็งค่าสวนเงินดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดทั้งรายงานการประชุมเฟดเดือนมิถุนายนและการให้แถลงการณ์ของประธานเฟดชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่านโยบายการเงินของสหรัฐจะต้องผ่อนคลายลง อย่างไรก็ดี ตลาดมองว่ามีโอกาสถึง3ใน4 ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย0.25% และ1 ใน4 ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย0.50% ในการประชุมครั้งถัดไปจึงต้องระวังว่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจกลับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงปลายเดือนนี้ได้ ถ้าในท้ายที่สุดเฟดไม่สามารถลดดอกเบี้ยเร็วอย่างที่ตลาดหวังไว้ คาดกรอบค่าเงินบาทวันนี้30.60 – 30.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
