เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะที่กำกับดูแลกองคดีการค้ามนุษย์ และ พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศันสนะ แก้วทับทิม รองผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ และ พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สวัสดีมงคล ผู้อำนวยการส่วนคดีการค้ามนุษย์ 2 นำคณะพนักงานสืบสวนสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการ รส.สห.มทบ.22 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เดชอุดม ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจค้นร้านคาราโอเกะเป้าหมาย คือร้านหนองบัวคาราโอเกะ ตั้งอยู่เลขที่ 234 ม.18 ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม เพื่อตรวจสอบ และพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง รวมทั้ง รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง กรณีมีสถานประกอบการร้านคาราโอเกะเปิดกิจการบังหน้าแฝงการค้าประเวณีในพื้นที่ อ.บุณฑริก โดยนำหญิงสาวชาวลาวที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณี ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเป็นความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจค้นร้านคาราโอเกะเป้าหมาย พบหญิงสาวสัญชาติลาว 9 คน โดยคณะพนักงานสืบสวนได้สัมภาษณ์เบื้องต้น พบว่า มีหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่น่าเชื่อว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน 1 ราย จึงประสานกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี และทีมสหวิชาชีพ สัมภาษณ์เบื้องต้นหญิงสาว 9 คน เพื่อคัดแยกผู้ที่อาจตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และให้ความคุ้มครองตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหากพบว่ามีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงกับต่างประเทศ หรือสถานประกอบการมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้มีอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง ดีเอสไอจะดำเนินการขออนุมัติเพื่อรับเป็นคดีพิเศษต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทั้งนี้ คณะพนักงานสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งได้ประสานข้อมูลกับมูลนิธิเดสทินี่ เรสคิว พบว่ามีหญิงสาวสัญชาติลาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาแอบแฝงค้าประเวณีในร้านกิ่งทองคาราโอเกะในพื้นที่ อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี จริง และมีการโยกย้ายหญิงสาวดังกล่าวมาค้าประเวณีในร้านหนองบัวคาราโอเกะ ในพื้นที่ อ.เดชอุดม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบดังกล่าว
