เมื่อวันที่ 12 ก.ค. น.ส.อนุวรรณ ศรีบุญ อายุ 23 ปี ชาว จ.นครปฐม เข้าร้องเรียนว่า ลูกสาววัย 10 เดือน ป่วยเป็นโรคดวงตาอักเสบ หลังจากนั้นได้พาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครปฐม โดยหมอให้ยากลับมาหยอดเพื่อรักษาอาการ แต่ปรากฏว่า เมื่อหยอดยาไปแล้วกลับหนักกว่าเก่า เพราะยาที่หมอให้มาทำให้กัดเข้ากับเยื่อบุตาจนเลือดไหลออกมาจากดวงตา
น.ส.อนุวรรณ เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค. น้องเอ (นามสมมติ) มีอาการตาอักเสบ บวมช้ำ คล้ายกับเป็นโรคตาแดง ตนเองจึงชวนสามี พาน้องเอไปพบแพทย์เพื่อรักษาดวงตาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครปฐม โดยใช้สิทธิ์บัตรทองในการรักษา เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์เข้ามายืนดูอาการของน้องเอ แล้วสอบถามอาการ แต่ไม่มีการตรวจอย่างละเอียด จากนั้นได้สั่งจ่ายยาให้ทันที ซึ่งเป็นยี่ห้อโพลีออฟ รักษาดวงตาอักเสบ ตาแดงน.ส.อนุวรรณ กล่าวต่อว่า ตนกลับบ้านก็ยอดใส่ดวงตาของน้องเอไป 1 ครั้ง แต่ไม่มีอาการดีขึ้น ต่อมาวันที่ 9 ก.ค. เวลา 15.00 น. จึงชวนสามีไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อพาน้องเอไปให้คุณหมอตรวจดูอาการ โดยเดินตรงไปที่คลินิกตาชั้น 3 แพทย์ได้สอบถาม ตนจึงบอกไปว่าอาการไม่ดีขึ้น ดวงตาช้ำและบวม แพทย์จึงสั่งยามาให้อีก 1 ตัว เป็นยาฆ่าเชื้อ ยี่ห้อ tobrex
น.ส.อนุวรรณ กล่าวอีกว่า เมื่อกลับมาบ้านตนจึงนำยาหยอดตาให้ลูกสาว แต่ปรากฏว่ามีน้ำสีเหลืองและเลือดไหลออกมาด้วย ตนสงสารลูกมากกลัวตาจะบอด จึงพาไปคลินิกตรวจตาแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครปฐม แพทย์แจ้งมาว่า ยาแรง ไม่เหมาะสำหรับเด็ก เนื่องจากดวงตาเด็กอ่อนโยนและบอบบางมาก จึงทำให้ยาเข้าไปกัดที่เยื่อบุดวงตาจนมีเลือดไหลออกมา
แม่ของน้องเอ กล่าวว่า ตนเไม่ได้คิดจะเอาเรื่องกับทางโรงพยาบาล แต่อยากฝากเตือนไว้เป็นอุธาหรณ์เท่านั้นว่า อยากให้แพทย์ตรวจและรักษาอาการให้ละเอียดกว่านี้ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร หากเด็กตาบอด ใครจะรับผิดชอบ ขอให้ลูกสาวของตนเป็นคนสุดท้ายที่ต้องเจอแบบนี้ เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใคร
