‘แจ๊สชวนชื่น’ สงสารลูกน้องเอาเรื่องถึงที่สุด ผวาลูกเมียไม่ปลอดภัยขอ ตร.คุ้มครอง ทนายระบุญาติคนร้ายอยู่ตอนลงมือ

ผู้ก่อเหตุ

“แจ๊สชวนชื่น” เผยที่บ้านมีปัญหากับคนร้ายมานับสิบปี สงสารลูกน้องยันเอาเรื่องถึงที่สุด หวั่นลูกเมียไม่ปลอดภัยประสานขอ ตร.คุ้มครอง “ทนายตั้ม”ระบุ ตอนลูกน้องแจ๊สถูกฆ่ามีญาติคนร้ายอยู่ในเหตุการณ์ด้วยแถมช่วยย้ายร่างมาใกล้รถตู้แล้วยังเอาระเบิดขวดปาเผารถ

กรณีนายพรชัย ดีเสือ อายุ 35 ปี คนงานล้างเครื่องจักรที่บ้านแจ๊ส ชวนชื่น ตลกชื่อดัง ถูกนายเสฎฐวุฒิ จิรัฐยารังษี อายุ 36 ปี เพื่อนบ้านของแจ๊ส ฆ่าทุบหัวด้วยกระถางต้นไม้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 14 ก.ค. บริเวณหน้าบ้านนายเสฎฐวุฒิ เลขที่ 41/39 ซอยนิมิตรใหม่ 14 แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เบื้องต้นคาดว่าเหตุเกิดจากการเคลียร์ปัญหาที่นายเสฎฐวุฒิขับรถชนแล้วหนีแต่เจรจาไม่ลงตัว

เมื่อเวลา 14.35 น. ที่ สน.มีนบุรี นายผดุง ทรงแสง หรือแจ๊ส ชวนชื่น อายุ 35 ปี พร้อมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน หลังเจ้าตัวหัวเสียกับเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

นายผดุง หรือแจ๊ส ชวนชื่น กล่าวภายหลังให้ปากคำนาน 30 นาทีว่า เมื่อคืนตนไม่อยู่ที่บ้าน เพราะขึ้นเล่นคอนเสิร์ต แล้วภรรยาได้โทรศัพท์มาบอกว่า คนข้างบ้านทำร้ายลูกน้องจนเสียชีวิต เมื่อทราบเรื่องก็รู้สึกสงสารเพราะผู้ตายยังมีลูกเล็ก ก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะเป็นการกระทำที่โหดร้าย ซึ่งตนก็เป็นห่วงลูกและกังวลเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเป็นคนรูปร่างใหญ่ มีอารมณ์โมโหร้าย ซึ่งทางบ้านคู่กรณีมักมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง ส่งเสียงจนเคยชินมานานนับสิบปี

Advertisement

นายผดุงกล่าวต่อ บางครั้งคนร้ายก็ด่าแม่ยายหรือด่าตนเอง เมื่อตอนที่ได้สังสรรค์ภายในบ้านสนุกสนาน ซึ่งได้หัวเราะส่งเสียงดังแต่คนร้ายกลับตะโกนด่า แม้กระทั่งเคยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า ที่ผ่านมาเคยมีปัญหากันบ่อยครั้ง เช่น หลานบ้านคู่กรณีมาขโมยของบ้านแม่ยาย ในขณะนั้นภาพวงจรปิดจับไว้ได้แต่ตนก็ไม่เอาเรื่อง อย่างไรก็ตามในตอนเกิดเหตุกล้องวงจรปิดถูกหนูกัดเสียหายไม่สามารถใช้ได้ จึงต้องไปใช้ภาพจากกล้องในละแวกใกล้เคียง

ด้านนายษิทรากล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทราบว่า เพื่อนของคนตายถูกคู่กรณีขับรถเฉี่ยวชน และโทรศัพท์เรียกให้ผู้ตายไปช่วยคุย ให้ซึ่งผู้ตายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ จากนั้นเมื่อไปคุยแล้วคู่กรณีเกิดไม่พอใจ ชักปืนมาขู่ แต่ปืนด้านยิงไม่ได้ ผู้ก่อเหตุจึงนำขวดและไม้มาฟาดก่อนจะทุ่มกระถางต้นไม้ใส่จนผู้ตายล้มลงที่หน้าบ้านเลขที่ 41/39 ของนายเสฎฐวุฒิ ซึ่งระหว่างเกิดเหตุก็มีญาติคนร้ายที่ได้มุงดูอยู่ด้วย ก็ได้ช่วยกันนำร่างนายพรชัยผู้ตายออกมาไว้ใกล้กับรถตู้ที่หน้าบ้านแจ๊ส ทั้งยังพยายามขว้างระเบิดขวดใส่เพื่อเผารถของแจ๊ส เบื้องต้นเตรียมประสานขอความคุ้มครองกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะแจ้งความข้อหาเจตนาฆ่า และเผารถทำให้เสียทรัพย์ ส่วนประเด็นที่มีการเคลื่อนย้ายศพ อยู่ที่ตำรวจว่าจะมีหลักฐานดำเนินการได้อย่างไร

นางชนันพร พรหมยศ แม่ภรรยา แจ๊ส ชวนชื่น กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ได้เกิดเสียงชุลมุนดังขึ้น ตนจึงลุกขึ้นมาเปิดไฟดู ก็พบว่าคนร้ายกำลังทำร้ายคนงานที่บ้านของตนอยู่ จึงได้รีบแจ้งโทรหาตำรวจ สน.มีนบุรี โดยผู้ต้องหาได้พยายามจะทำร้ายแม่บ้านและพี่เลี้ยงที่อยู่ในรถยนต์ฮุนได สีดำ หลังขับกลับมาจากคอนโดมิเนียมของลูกแจ๊ส โดยคนร้ายพยายามทุบรถ ขว้างปาสิ่งของใส่จนกระจกรถร้าวเสียหายเพื่อให้พี่เลี้ยงและแม่บ้านลงจากรถ แต่ทุกคนในรถกลัวและไม่กล้าลงมา คนร้ายจึงพยายามใช้ขวดพลาสติกบรรจุน้ำบางอย่างและจุดไฟ ขว้างมาที่รถ ก่อนจะหลบหนีไปโดยเหตุชุลมุนกินเวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นตนจึงลงมาจากบ้านและพบว่าคนงานได้นอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถและเสียชีวิตแล้ว

Advertisement

นางชนันพรกล่าวต่อ ตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัยหากตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ เพราะในบ้านมีแต่ผู้หญิงอาศัยอยู่ จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image