นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน และรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า แผนการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ล่าสุดได้มีการหารือร่วมกับกลุ่มบริษัทซีพี ที่ชนะการประมูล เพื่อวางรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ที่สามารถส่งมอบได้ก่อน และพื้นที่ที่จะส่งมอบให้ในระยะต่อไป จนกว่าจะส่งมอบได้ครบทั้ง 100% โดยขณะนี้ได้นำแผนดังกล่าวส่งให้ซีพี นำรายละเอียดทั้งหมดเทียบกับแผนการก่อสร้างแล้วว่าจะสอดคล้องกันหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งมอบแผนการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างและเซ็นสัญญาร่วมกันได้ภายในสัปดาห์หน้า
“รฟท.กับซีพีทำงานร่วมกันตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อทำแผนการส่งมอบพื้นที่ให้เสร็จและทำสัญญาร่วมกันได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงให้ซีพีนำแผนการส่งมอบดังกล่าวเทียบกับแผนการก่อสร้างของซีพี ซึ่งหากสอดคล้องกันและไม่มีอะไรต้องแก้ไขแล้ว ก็จะสามารถทำสัญญาร่วมกันได้เลย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ดูแผนการก่อสร้างของซีพีว่าจะสอดคล้องกับแผนการส่งมอบของ รฟท.หรือไม่ แต่ก็จะพยายามทำให้เสร็จภายในเดือนนี้” นายวรวุฒิกล่าว
นายวรวุฒิกล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่ที่ต้องเวนคืนนั้น ขณะนี้รอให้พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน (พ.ร.ฎ.) ออกมาให้ได้ก่อน ซึ่งหลังจากได้ พ.ร.ฎ.แล้ว ก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อจัดการที่ดินเวนคืนทั้งหมดให้เรียบร้อย ก่อนจะส่งมอบให้กับซีพีต่อไป โดยคาดว่าจะใช้เวลาหลังจากใช้ พ.ร.ฎ.แล้ว 2 ปี จึงจะสามารถส่งมอบที่ดินเวนคืนให้ซีพีได้ครบทั้งหมด ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้เวลาถึง 2 ปีนั้น ตามกรอบข้อกฎหมายแล้วมีกำหนดกระบวนการทำงานอยู่ ซึ่งมีรายละเอียดจำนวนมาก ทั้งต้องจัดการพื้นที่เช่า พื้นที่ที่ถูกบุกรุก กำหนดค่าเวนคืน และที่ผ่านมา รฟท.ก็มีการเวนคืนที่ดินก่อสร้าง ซึ่งก็ใช้เวลาไม่ต่างจากนี้
“ในส่วนของที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แสดงความกังวลกับการส่งมอบพื้นที่เขตทางรถไฟของ รฟท.ให้ซีพี เพื่อใช้ก่อสร้างโครงการจะล่าช้า จนกระทบสัญญาและการพัฒนาโครงการพัฒนาพื้นที่เขตพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เบื้องต้นคาดว่า รมว.คมนาคมน่าจะกังวลในส่วนของแผนการส่งมอบพื้นที่ของ รฟท.มากกว่า ที่หากไม่เรียบร้อยหรือรอบคอบเท่าที่ควร จะเป็นจุดอ่อนในสัญญาได้ โดย รฟท.ก็พยายามทำแผนส่งมอบให้รัดกุมที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ และไม่กระทบกับโครงการอีอีซีแน่นอน” นายวรวุฒิกล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
