ลุ้นอ้อยเข้าหีบ120ล้านตันแต่ต้องระวังแล้ง ก.อุตรับนโยบายราคา1,000บ./ตันของพปชร.ยาก

รง.น้ำตาลประเมินอ้อยเข้าหีบปีนี้ประมาณ 120 ล้านตันอ้อย หวั่นปัญหาฝนทิ้งช่วง กระทบคุณภาพอ้อย ก.อุตชี้นโยบายพปชร.1,000 บ./ตันทำได้ยาก สูงสุดอยู่ที่ 900 บ./ตัน

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด หรือ ทีเอสเอ็มซี เปิดเผยถึงสถานการณ์อ้อยประจำฤดูการผลิตปี 2562/63 ว่า ได้ประเมินปริมาณผลผลิตอ้อยเบื้องต้นฤดูการผลิตใหม่ใกล้เคียงกับฤดูการผลิตที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 120 ล้านตันอ้อย สอดคล้องกับการสำรวจของสำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) โดยสิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ คือ ปัจจัยจากสภาพดินฟ้าอากาศในช่วง 1-2 เดือนนี้ ที่จะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกและคุณภาพอ้อยเข้าหีบอาจไม่ดีเท่ากับปีที่ผ่านมา จากปัญหาฝนทิ้งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้

“จากปัญหาฝนทิ้งช่วงส่งผลกระทบต่อคุณภาพของอ้อยได้ ทำให้โรงงานน้ำตาลต้องเตรียมพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการเพาะปลูกอ้อย เพื่อทำให้ชาวไร่สามารถจัดส่งอ้อยที่มีคุณภาพดีแก่โรงงานเพื่อนำไปผลิตน้ำตาลได้มากขึ้น”นายสิริวุทธิ์กล่าว

Advertisement

นายสิริวุทธิ์กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ตกต่ำนั้น อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย ในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับ 2 ของโลก จะเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อการปฎิรูปการค้าน้ำตาลโลก(จีเอสเอ) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาราคาน้ำตาลในตลาดโลกตกต่ำจากการที่ประเทศอินเดียให้การอุดหนุนราคาอ้อยเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ และชดเชยค่าขนส่งน้ำตาลจากโรงงานไปยังท่าเรือส่งออก ซึ่งเป็นการบิดเบือนกลไกราคาน้ำตาลในตลาดโลก เป็นผลให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำตาลทรายหลายราย
ได้แก่ บราซิล ออสเตรเลีย และกัวเตมาลา ยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ) เพื่อกดดันให้อินเดียยกเลิกมาตรการดังกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า กรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แกนนำรัฐบาล มีนโยบายหาเสียงด้านเกษตรยั่งยืน กำหนดราคาอ้อย 1,000 บาทขึ้นไปต่อตันนั้น ในทางปฏิบัติค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจากราคาตลาดโลกในปัจจุบันยังอยู่ระดับตกต่ำเมื่อคำนวณเป็นราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต 2562-63 อยู่ที่ประมาณ 700 บาทต่อตันอ้อยเท่านั้น จึงต้องติดตามการขายน้ำตาลล่วงหน้าในตลาดโลกหลังจากนี้ว่าจะมีทิศทางราคาอย่างไร แต่จากราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต 2561/62 ซึ่งอยู่ที่ 700 บาทต่อตันอ้อย หากอ้อยคุณภาพสูงก็จะใกล้เคียง 800 บาทต่อตัน และเมื่อรวมกับการช่วยเหลือจากภาครัฐและกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ทำให้ราคาเฉลี่ย 900 บาทต่อตัน ดังนั้นฤดูการผลิต 2562/63 ราคาสูงสุดที่เกษตรกรจะได้รับจึงน่าจะอยู่ระดับ 900 บาทต่อตันอ้อย โอกาสถึง 1,000 บาทต่อตันอ้อย จึงเป็นไปได้ยาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image