กสิกรไทยระบุต่างชาติยังมองไทยเป็นเซฟเฮฟเว่น ดันบาทแข็งค่าต่อช่วงที่เหลือของปีนี้

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายในช่วงที่เหลือของปี2562 มีแนวโน้มที่เงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าในตลาดไทยอีกโดยเฉพาะพันธบัตรโดยเฉพาะในพันธบัตรระยะยาวและมีบางส่วนที่ไหลเข้าในตลาดหุ้นเนื่องจากชาติมีมุมมองไทยเป็นตลาดปลอดภัยในการลงทุน(เซฟเฮฟเว่น) จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงเงินเฟ้อต่ำเงินสำรองระหว่างประเทศสูงมีการปรับดัชนีการลงทุนของMSCI รวมทั้งโอกาสการปรับอันดับความน่าเชื่อถือ(เครดิตเรทติ้ง) ของไทยปัจจุบันอยู่ที่BBB+ ซึ่งเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาจะกดดันค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าได้ต่อเนื่องขณะนี้ถือว่าแข็งค่ามากกว่าพื้นฐานเศรษฐกิจ

นายกอบสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทปัจจุบันที่30.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากช่วงก่อนหน้าที่ลงไประดับ30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่ธปท. ออกมาตรการมาถือว่ามาตรการที่ธปท. ออกมามีผลโดยยอดถือครองพันธบัตรระยะสั้นของต่างชาติลดลง40,000 ล้านบาทจาก120,000 ล้านบาทมาอยู่ที่80,000 ล้านบาททั้งนี้ระยะสั้นช่วง1-2 สัปดาห์นี้ประเมินว่าบาทมีโอกาสอ่อนค่าได้ในระดับ31.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐจากความผันผวนนโยบายการเงินของประเทศหลักจากการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางสหรัฐและมีเงินทุนไหลออกจากไทยจากการโอนกำไรของบริษัทต่างๆกลับต่างประเทศทั้งนี้สถานการณ์สงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อภาวะเศรษฐกิจโลกและการค้าโลกชะลอตัวชะลอทิศทางนโยบายการเงินประเทศหลักทำให้เงินบาทสิ้นปีนี้ที่31.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าจากสิ้นปีก่อนที่32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในไทยเพราะมองไทยยังเป็นเซฟเฮฟเว่นของภูมิภาคอัตราเงินเฟ้อต่ำขณะที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรของไทยเทียบประเทศตลาดเกิดใหม่ที่อยู่ในระดับBBB+ ทั้ง24 ประเทศไทยมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าประเทศอื่นประมาณ1% เงินทุนต่างชาติจึงยังไหลเข้าต่อเนื่องขณะที่หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆผลักดันโครงการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ความเชื่อมั่นเอกชนดีขึ้นประกอบกับผลจากสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่จะทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตอาจจะเริ่มมีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ(เอฟดีไอ) เข้ามาในไทยได้แต่ต้องจับตาเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลเพราะประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนามนายกอบสิทธิ์กล่าว

นายกอบสิทธิ์ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังคาดยังขยายตัวได้แต่ต้องติดตามปัจจัยหนุนเศรษฐกิจทั้งการส่งออกที่ยังติดลบการท่องเที่ยวที่ค่าบาทแข็งทำให้นักท่องเที่ยแลกเงินบาทได้น้อยลงและนักท่องเที่ยวมีการกระจายจุดหมายท่องเที่ยวไปที่อื่นๆมากขึ้นภัยแล้งที่อาจจะกระทบต่อกำลังซื้อแต่การที่มีรัฐบาลชัดเจนทำให้ไทยสามารถเดินหน้าเจรจาการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปได้คาดจะส่งผลบวกต่อการส่งออกได้แต่ธนาคารยังคาดการส่งออกขยายตัว0% และอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ที่3.1% คาดว่าจีดีพีไตรมาส2/2562 จะขยายตัว3.0-3.4% ขณะที่ครึ่งปีหลังคาดขยายตัวประมาณ3.0% ซึ่งไตรมาสแรกขยายตัว2.8% ซึ่งหลังจากที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) แถลงจีดีพีไตรมาสที่2/2562 อย่างเป็นทางการในช่วงเดือนสิงหาคมแล้วอาจจะมีการทบทวนตัวเลขประมาณการใหม่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image