พณ.จูงใจชาวสวนยางพารา ใช้เอฟทีเอสร้างแต้มต่อผลิตภัณฑ์ยางพาราสู่ตลาดโลก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่สำรวจศักยภาพสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด จังหวัดตรัง และหารือเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เจาะตลาดต่างประเทศ โดยพบว่าสหกรณ์มีสมาชิก 86 ราย มีพื้นที่ 4,600 ไร่ รับซื้อน้ำยางจากสมาชิกเพื่อแปรรูปเป็นหมอนและที่นอนยางพารา ผลิตหมอนยางพาราได้เดือนละ 5,000 ใบ จำหน่ายภายในประเทศ และส่งออกไปจีนซึ่งเป็นตลาดหลักเดือนละ 4,000 ใบ ภายใต้เครื่องหมายการค้า Nong Krok รวมทั้งยังรับจ้างผลิต (OEM) ส่งออกไปมาเลเซียและเมียนมาด้วย

ซึ่งสหกรณ์ ส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพาราโดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ โดยเฉพาะเอฟทีเออาเซียน และอาเซียน-จีน ซึ่งไม่เก็บภาษีนำเข้ากับสินค้ายางพาราที่ส่งออกจากไทยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะทำตลาดในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป แต่ยังต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ขณะนี้อยู่ระหว่างหาแหล่งทุนเพื่อซื้อเครื่องจักร และดำเนินการขออนุญาตต่างๆ ตามกฎหมายผังเมือง เพื่อขยายกิจการและยกระดับมาตรฐานการผลิตต่อไป

นางอรมน กล่าวว่า ในวันที่ 26 กรกฎาคม กรมร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ หอการค้าไทย สหกรณ์จังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” โดยเชิญเครือข่ายสหกรณ์ในพื้นที่ร่วมเสวนากับภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำแนะนำเรื่องการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ และการยกระดับสหกรณ์ไทย เพื่อให้เกษตรกรและสหกรณ์ยางพาราสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตสินค้า เพื่อสร้างแต้มต่อให้กับผลิตภัณฑ์ยางพาราไทย และสร้างรายได้แก่สหกรณ์และเกษตรกรยางพาราไทยในระยะยาว

นางอรมน กล่าวว่า สำหรับยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยปี2561 ไทยส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 4,602.1 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นยางแท่ง 2,222 ล้านเหรียญสหรัฐ น้ำยางธรรมชาติ 1,354.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ยางแผ่น 902.8 ล้านเหรียญสหรัฐ และยางพาราอื่นๆ 123.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และ5 เดือนแรกปี 2562 ไทยส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 2,177.2 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นยางแท่ง 1,190.6 ล้านเหรียญสหรัฐ น้ำยางธรรมชาติ 577.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ยางแผ่น 382.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และยางพาราอื่นๆ 26.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน สหรัฐฯ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เป็นต้น

Advertisement

ทั้งนี้ ต่อจากนี้กรมมีแผนจะดำเนินโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในครั้งที่ 3 ที่สหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี (สินค้าเงาะและกล้วยหอม) และครั้งที่ 4 ที่สหกรณ์การเกษตรหนองสูง จำกัด จังหวัดมุกดาหาร (สินค้าโคเนื้อ) สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการถามได้ที่โทร. 02-5077555

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image