สอบบัญชีรับโอนเงินค่าไถ่ เผยลาวยังไม่ส่งตัวนักธุรกิจส่งออกสัตว์กลับไทย

สอบบัญชีรับโอนเงินค่าไถ่ เผยลาวยังไม่ส่งตัวนักธุรกิจส่งออกสัตว์กลับไทย

วันที่ 31 กรกฎาคม ที่ห้องประชุม กองกำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน (ตม.) จ.เชียงราย พล.ต.ท.สมพษ์ ชิงดวง ผบช. สตม พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.พงค์อนันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5 พล.ต.ต.ยุทธชัย พวงประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.แมน แม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป น.อ.วุฒิชัย ภู่เจริญยศ ผบ.นรข.เชียงราย พร้อมด้วย นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน น.ส.เกศริน พนารังสรรค์ หน.สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงราย ตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ ทหารพราน ตำรวจน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมสรุปความคืบหน้ากรณีการติดตามช่วยเหลือนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ อายุ 54 ปี ประธานสมาคมสัตว์ส่งออกเชียงแสน ซึ่งถูกคนร้ายไม่ทราบฝ่ายจับตัวไปเรียกค่าไถ่จำนวน 5,000,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา กระทั่งเวลา 11.10 น. ของวันที่ 30 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ สปป.ลาวสามารถช่วยเหลือนำตัวมาได้อย่างปลอดภัย แต่ยังคงมีการกักตัวนายสิงห์แก้วไว้ เพื่อสอบสวนโดยยังไม่มีการส่งมอบตัวคืนกลับประเทศไทย

พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าวว่า ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางทุกหน่วยของราชการไทยประกอบไปด้วยตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกันประสานงานให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งความคืบหน้าในการประสานงานในวันนี้ ทางญาติของนายสิงห์แก้ว ได้ขอให้ช่วยประสานไปยังทางการ สปป.ลาว ขอช่วยเร่งรัดให้ทาง สปป.ลาวสอบปากคำเสร็จแล้วขอให้รีบส่งตัวมาโดยเร็วเพราะนายสิงห์แก้วมีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการรักษา นอกจากนี้ได้มีกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปที่สถานทูตนครหลวงเวียงจันทน์ และประสานมาที่แขวงบ่อแก้ว ด้วยอีกทางหนึ่ง และในวันนี้ทางแขวงบ่อแก้วและส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมบริหารของแขวงบ่อแก้ว และจะได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ด้วย คงจะมีความคืบหน้าในเรื่องการส่งตัวกลับมากกว่านี้

ทั้งนี้ก่อนการประชุมได้มีนางศรีวรรณ วงศ์ใหญ่ ภรรยา อายุ 45 ปี และ น.ส.รสริน วงศ์ใหญ่ อายุ 27 ปี บุตรสาว พร้อมด้วยญาติของนายสิงห์แก้ว นำช่อดอกไม้มามอบให้กับ พล.ต.อ.สมพงษ์ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยประสานงานติดตามช่วยเหลือจนสามารถพบตัวนายสิงห์แก้ว โดย น.ส.รสริน ลูกสาวผู้ตายกล่าวว่าขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ดำเนินการช่วยเหลือจนพบตัวพ่อ ถึงแม้ว่าขณะนี้ยังไม่ได้ตัวกลับมายังประเทศไทยแต่ก็อุ่นใจแล้วว่าอยู่ในการดูแลของทางการลาว ส่วนประเด็นหรือสาเหตุการเกิดเรื่องในครั้งนี้ตนเองไม่ทราบ เพราะก่อนที่พ่อจะเดินทางไปติดต่องานธุรกิจที่ สปป.ลาว ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังหรือมีทีท่าว่าจะมีปัญหาอะไรกับใครเลย

Advertisement

หลังการประชุม พล.ต.ท.สมพงษ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเดินทางออกนอกประเทศของนายสิงห์แก้ว เพื่อนำข้อมูลรายระเอียดและเบาะแสมาประกอบสำนวนในการสอบสวนและประกอบข้อมูลในการประสานงานทางฝ่าย สปป.ลาว เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุใครั้งนี้ต่อไป

ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มีการประสานไปยังทางการ สปป.ลาว เพื่อขอคำตอบอีกครั้งซึ่งผลปรากฎว่าทางท่านบัวคง นามมะวง เจ้าแขวงบ่อแก้ว แจ้งว่าจะมีการประชุมและจะพยายามเร่งรัดขั้นตอนของฝ่ายลาวอีกครั้งและมีรายงานว่าจะให้คำตอบในวันเดียวกันนี้ต่อไป เช่นเดียวกับทางกระทรวงการต่างประเทศที่มีการประสานด้วยช่องทางทางการทูตด้วยเช่นกัน

ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ได้มีการอายัดบัญชีธนาคารของนายอนันต์ฉาย อายุ 64 ปี ชาวกรุงเทพฯ คนร้ายที่เรียกค่าไถ่จำนวน 5 ล้าน ให้ญาติของนายสิงห์แก้วโอนเงินไปยังบัญชีดังกล่าวไว้แล้ว หลังจากตรวจพบว่าช่วงที่เกิดเหตุได้มีการโอนเงินด้วยโทรศัพท์มือถือของนายสิงห์แก้วเข้าบัญชีดังกล่าวจำนวน 2 ครั้งโดยครั้งแรกจำนวน 79,000 บาท และครั้งที่ 2 จำนวน 100,000 บาทโดยไม่ทราบสาเหตุ รวมทั้งได้มีหมายเรียกไปถึงนายอนันต์ฉายเพื่อไปให้ปากคำแล้ว กระนั้นเนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีนอกราชอาณาจักรทาง สภ.เชียงแสน ระบุว่าพนักงานสอบสวนที่มีอำนาจคืออัยการสูงสุดจึงมีการแจ้งไปยังอัยการสูงสุดต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image