ที่กระทรวงพาณิชย์ นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับคณบดีเภสัข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ กรรมการสภาเภสัชกรรม เกี่ยวกับความพร้อมของร้านขายยาที่มีประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่นำใบสั่งยาของแพทย์โรงพยาบาลที่รักษาไปซื้อเองนอกโรงพยาบาล นั้น ทางสภาเภสัชกรรมยืนยันว่าขณะนี้ร้านขายยาจำนวนมากมีมาตรฐานจีพีพี (Pharmacy Practice : GPP) ซึ่งกำหนดให้ทุกร้านต้องมีเภสัชกรประจำร้าน มีการแสดงป้ายชื่อพร้อมรูปเภสัชกร รวมไปถึงมีการกำหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ซึ่งคาดว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้าร้านขายขาทั่วประเทศจะมีมาตรฐานทั้งหมด 100%
“ตอนนี้มีเภสัชกรที่จบออกมาจำนวนมากและผู้ที่จบออกมาก็มีความรู้เรื่องยาแต่ละตัวไม่แพ้แพทย์ ดังนั้นจึงขอให้สบายใจวาประชาชนที่ขอนำใบสั่งยาของแพทย์โรงพยาบาลเอกชนมีศักยภาพและปริมาณเพียงพอที่จะให้บริการเอกชน และในอนาคตหน่วยงานต่างๆอาจผลักดันให้แพทย์ในโรงพยาบาลรัฐออกใบสั่งยาให้ผู้ป่วยไปซื้อยาที่ร้านด้วย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางโรงพยาบาลเอกชนบางรายอ้างว่าร้านขายยาจำนวนมากยังไม่มีมาตรฐาน ซึ่งทางสภาพเภสัชกรรมบอกว่านั่นเป็นการกล่าวอ้างเมื่อ20-30ปีที่แล้ว”
นายประโยชน์ กล่าวว่า การเดทไลน์ที่โรงพยาบาลต้องส่งข้อมูลต้นทุนของยาและค่าบริการทั้งหมดภายในวันที่ 31 ก.ค. 62 นั้น กรมฯกำหนดให้เวลาถึง 24.00 น. พอขึ้นวันที่ 1 ส.ค.หากโรงพยาบาลรายใดไม่ส่งข้อมูลก็จะเชิญโรงพยาบาลมาชี้แจงและความไม่ให้ความร่วมมือก็จะมีโทษปรับวันละ 2,000 บาท อย่างไรก็ตามล่าสุดโรงพยาบาลเอกชนได้ส่งข้อมูลมาเกือบหมดแล้ว และเข้ากระบวนการทำข้อมูลยา เวชภัณฑ์ เพื่อลงในคิวอาร์โค้ด ให้เสร็จภายใน 15 วัน และทุกโรงพยาบาลจะติดตั้งภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ในส่วนกรณีที่ตัวยาหรือค่าบริการที่โรงพยาบาลมีการคิดแพงเกินไปทางกรมฯจะมีการเชิญมาหารืออีกครั้ง
