นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% แต่ตลาดทุนกลับผิดหวังและปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ดัชนี S&P500 ของสหรัฐปรับตัวลงกว่า 1.1% อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ทั่วโลกต่างปรับตัวลง 4-6 bps และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยตลาดการเงินที่ปิดรับความเสี่ยงเกิดขึ้นหลังจากที่แถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ไม่มีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะมีการลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง
นายจิติพลกล่าวว่า นายพาวเวลล์ให้เหตุผลเพียงว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเพื่อรับมือความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็มีคณะกรรมการเฟดสองท่านสนับสนุนให้คงดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยต่อไปเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่งส่งผลให้ตลาดผิดหวังกับผลการประชุมและความน่าจะเป็นที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าลดลงจากระดับ 72% ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดมาที่ระดับ 62% ในปัจจุบัน
นายจิติพลกล่าวว่า ตลาดเงินเอเชียก็ตอบรับนโยบายการเงินของเฟดในมุมมองปิดรับความเสี่ยงส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับแทบทุกสกุลเงิน ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ระยะสั้นธนาคารคงมุมมองเดิมว่าเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยต่อได้อีก0.25% ในปีนี้ถ้าตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยงนานหรือปรับตัวลงอย่างน้อย 10% จากปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงที่เฟดจะไม่ลดดอกเบี้ยและเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าก็ยังมีอยู่ถ้าสหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้หรือถ้าเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้เร็วในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คาดกรอบค่าเงินบาทวันนี้ 30.83-30.93 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
เกาะกระแสเศรษฐกิจใกล้ตัว กับมติชน คลิ๊ก!
