นิสสัน ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้าพลังเงียบ : โดย นายพล

มีคำถามว่าทำไม รถยนต์ นิสสัน ลีฟ รถยนต์เจเนอเรชั่นที่ 2 เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ทำไมถึงตั้งราคาถึงคันละ 1.99 ล้านบาท ราคาแพงไปหรือไม่

ถามเอาไปเปรียบเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายอื่นๆ เช่น จีเอ็ม แซดเอส ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ก็คงต้องบอกว่าแพง เพราะรายนั้นตั้งราคาไว้ล้านกว่าบาท

แต่หากใครได้ลองสัมผัสกับนิสสัน ลีฟ แบบใช้งานจริงแล้วละก็ ความคิดดังกล่าวอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น

อย่างที่บอกว่า นิสสัน ลีฟ รุ่นนี้เป็นรุ่นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ผ่านมาเจนเนอเรชั่นแรก ขายไปแล้วทั่วโลก ดังนั้นจึงมั่นใจได้ในระดับหนึ่งถึงมาตรฐานของรถยนต์ รับรองว่าไม่ใช่รถกระป๋องแน่นอน โดยเฉพาะการนำมาใช้งานในสภาพภูมิอากาศฝนตกแดดออกบ่อยๆ เหมือนในประเทศไทย

Advertisement

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะที่โดดเด่นในลีฟ ใหม่ คือ อี-เพดัล (e-Pedal) และ นิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ (Nissan Safety Shield)

อี-เพดัล เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับขี่ในการออกตัว เร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว หยุดนิ่งและควบคุมตัวรถให้อยู่กับที่ด้วยการใช้แป้นคันเร่งอย่างเดียว เป็นนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ได้อย่างสิ้นเชิง

Advertisement

ด้วยอัตราการชะลอความเร็วที่สูงถึง 0.2G เพียงยกเท้าออกจากคันเร่ง ตัวรถจะลดความเร็วจนหยุดนิ่งได้อย่างนุ่มนวล โดยไม่จำเป็นต้องแตะแป้นเบรก เทคโนโลยี อี-เพดัล ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องยกเท้าจากแป้นคันเร่ง เพื่อเหยียบแป้นเบรกบ่อยครั้งเมื่อต้องการชะลอระดับความเร็วหรือหยุดรถ ช่วยลดความเมื่อยล้าและเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่

นิสสัน ลีฟ ใหม่ ยังติดตั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ได้แก่ เทคโนโลยีเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning: FCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉิน (Forward Emergency Braking: FEB) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor: IAVM) พร้อมเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection: MOD) เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Active Trace Control: ATC) และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Alert: DAA)

หัวใจหลักของเการขับเคลื่อนอัจฉริยะในลีฟคือระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พร้อมกับมีแรงบิดและพละกำลังสูงขึ้น ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่มอบสมรรถนะที่ต่อเนื่องและเร้าใจ ด้วยการส่งกำลังที่ 110 กิโลวัตต์ มากกว่าลีฟ เจเนอเรชั่นก่อนหน้า 38 เปอร์เซ็นต์ มีแรงบิดเพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์เป็น 320 นิวตันเมตร ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นโดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 7.9 วินาที ผู้ขับขี่ลีฟ จะชื่นชอบกับการตอบสนองทันท่วงที เพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้นกว่าเดิม

แต่ในทางกลับกัน เมื่อตอบสนองได้ไว บรรดาพวกเท้าหนักจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะระวังจะเบรกไม่อยู่ เพราะอัตราการเร่งตอบสนองไวมาก ทำให้การใช้งานในเมืองทำได้อย่างคล่องแคล่ว

ไม่เพียงจะมีพละกำลังเพิ่มขึ้น ลีฟ ใหม่ ยังมีระยะทางขับขี่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยชุดแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชุดใหม่ขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ให้ระยะทางขับขี่ตามมาตรฐานการวัดค่าไอเสียและอัตราสิ้นเปลือง NEDC (New European Driving Cycle) ที่ 311 กิโลเมตร ตอบสนองต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ส่วนใหญ่ได้ แต่สำหรับการใช้งานจริงน่าจะวิ่งได้ประมาณ 250-270 กม.

มีระบบพวงมาลัยไฟฟ้าเสถียรมากขึ้น โดยเฉพาะการขับขี่บนทางด่วน รวมทั้งมีการตอบสนองต่อสภาพพื้นผิวถนนดีขึ้น เนื่องจากการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ใหม่ ระบบควบคุมทำงานเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์วัดองศาการเลี้ยวของพวงมาลัย และระบบกันสะเทือนแบบทอร์สชั่น บาร์ (Torsion Bar) ที่มีอัตราการยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์

ชุดยางซับแรงกระแทกใช้วัสดุยูรีเธนสำหรับระบบกันสะเทือนหลังถูกแทนที่ด้วยวัสดุใหม่ ผลิตจากยาง ช่วยลดแรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือน เมื่อต้องขับขี่บนสภาพถนนที่ขรุขระ ช่วยให้นุ่มนวล

มาพร้อมเทคโนโลยีควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Ride Control) เพื่อช่วยให้มอเตอร์ไฟฟ้ามีการทำงานแม่นยำมากขึ้นในการสร้างแรงบิดที่เหมาะสมเมื่อเข้าโค้ง

ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์แบบคู่ รองรับการทำงานทั้งไฟต่ำ และไฟสูง และเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งในรถยนต์ของนิสสัน ช่วยสร้างความรู้สึกทันสมัย พร้อมทั้งเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็น

ภายในห้องโดยสารของลีฟ กว้างขวางใช้ได้ ดีไซน์ให้หน้าจอและรูปแบบของไฟแสดงข้อมูลของคนขับเรียบง่าย จะเห็นตะเข็บการเย็บสีฟ้า เป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้านิสสัน ทั้งบริเวณเบาะนั่ง ด้านข้างประตู ที่วางแขน และพวงมาลัย รวมทั้งการใช้โทนสีน้ำเงินกับปุ่มสตาร์ต และเกียร์ ให้ความรู้สึกล้ำสมัย

หน้าจอแสดงข้อมูล และสวิตช์ควบคุมต่างๆ ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ใช้งานง่ายขึ้น

คนขับสามารถเลือกแสดงข้อมูลตามที่ต้องการ หน้าจอแสดงผลตรงกลางแบบ ฟลัช-เซอร์เฟซ (Flush-surface) ช่วยให้ผู้ขับขี่สะดวกต่อการเลือกระบบความบันเทิง รวมทั้งแสดงให้เห็นการทำงานของเทคโนโลยี เซฟตี้ ชีลด์ (Safety Shield) ระดับการชาร์จไฟของรถ และพลังงานที่เหลืออยู่ รวมถึงระบบเสียง และข้อมูลระบบนำทาง

ความเงียบของนิสสัน ลีฟ เชื่อว่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ของใครหลายคนที่มีโอกาสได้สัมผัส เพราะจะมอบความรู้สึกถึงความเงียบ จนบางครั้งไม่คิดว่ากำลังนั่งอยู่บนรถยนต์ที่กำลังขับเคลื่อนไปบนท้องถนน

เพราะมีมาตรการลดเสียงรบกวนอื่นๆ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของความแข็งแกร่งของโครงสร้างอินเวอร์เตอร์ (inverter) และการป้องกันเสียงรบกวนบนโมดูลส่งต่อพลังงาน (PDM) รวมถึงการลดเสียงรบกวนจากตัวมอเตอร์ไฟฟ้า แม้ว่าจะส่งแรงบิดและมีกำลังมากกว่าเดิม

แม้ว่าความจุพลังงานของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะเพิ่มขึ้น แต่ขนาดของแบตเตอรี่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงดังนั้นห้องโดยสารจึงรองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสบาย นอกจากนี้พื้นที่วางสัมภาระด้านหลังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่มากขึ้น มีความจุ 435 ลิตร (VDA) พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีการเอาส่วนนูนออกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งาน พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังสามารถเก็บกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาดกลาง หรือกระเป๋าสัมภาระพกพาขึ้นเครื่อง 3 ใบ

นิสสัน ลีฟ ใหม่ รุ่นแรกที่เข้ามาวางจำหน่าย สีแบบทูโทนภายใต้ตัวถังสีขาว Brilliant White Pearl และด้านบนหลังคาสีดำ Super Black สำหรับการตกแต่งภายใน ออกแบบให้สะอาดตา ใช้สีดำล้วนช่วยให้บรรยากาศเรียบหรู และเดินเส้นสายสีน้ำเงินที่เบาะนั่ง

นิสสัน ลีฟ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังขับสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 ps) ที่ 3,283-9,795 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร (32.6 kgfm) ที่ 0-3,283 รอบต่อนาที

ส่วนวิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จได้สามวิธีหลักๆ ประกอบด้วย การชาร์จจากไฟบ้านปกติ (standard outlet charging) การชาร์จจากอุปกรณ์ชาร์จติดผนัง (wall box charging) และรวมถึงการชาร์จแบบด่วนหรือ (Quick Charge) รายละเอียด มีดังนี้

การชาร์จจากไฟบ้านปกติ เช่นเดียวกับการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จสมาร์ทโฟน 80-90 เปอร์เซ็นต์ของเจ้าของรถนิสสัน ลีฟ ส่วนใหญ่ เลือกชาร์จรถยนต์ที่บ้านโดยใช้เคเบิลอเนกประสงค์ (EVSE cable) มาพร้อมกับรถยนต์ ส่วนมากเป็นการชาร์จแบบข้ามคืน ใช้เวลาชาร์จประมาณ 12-16 ชั่วโมง

การชาร์จจากเครื่องชาร์จไฟฟ้าจากที่บ้าน ที่ทำงาน หรือในที่อื่นๆ ที่มีการติดตั้ง จะสามารถชาร์จไฟฟ้าให้เต็มได้ภายในระยะเวลา 6-8 ชั่วโมง

การชาร์จแบบด่วน เป็นการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง ใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 40-60 นาที เพื่อชาร์จให้แบตเตอรี่มีความจุ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่มักมีติดตั้งในพื้นที่ที่ชาร์จสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือที่สาธารณะต่างๆ

นิสสัน ลีฟ ถือเป็นยานยนต์ไฟฟ้ายุคบุกเบิกที่เข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังในบ้านเรา ถือเป็นการเริ่มต้นของรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างแท้จริง

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image