นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด กองทุนร่วมลงทุน(ซีวีซี) ด้านเทคโนโลยีของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนลงทุนของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 จะลงทุนในสตาร์ตอัพใน 4 ด้าน ภายใต้งบลงทุน 600 ล้านบาท ได้แก่ 1.เทคโนโลยีด้านการก่อสร้างในสัดส่วน 20% ของงบลงทุน มุ่งเน้นเทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมคุณภาพการก่อสร้าง (QC) 2.เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน ในสัดส่วน 30% มุ่งเน้นด้านการใช้ทรัพยากรอย่างฉลาดและการกำจัดของเสียที่มีประสิทธิภาพ 3.เทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ ในสัดส่วน 20% มุ่งเน้นด้านรูปแบบการใช้ชีวิตแบบใหม่และ โทเค็นนิเซชั่น แปลงข้อมูลกลายเป็นโทเค็นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับการชำระเงินออนไลน์ และ 4.เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยและสุขภาพ ในสัดส่วน 30% มุ่งเน้นด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย โดยเฉพาะเรื่องการใช้เสียง ปัจจุบันมีสตาร์ทอัพหลายรายที่ผ่านการพิจารณามาถึงขั้นทดสอบความเป็นไปได้
นายจิรพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทได้ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อเข้าร่วมพัฒนาและทดลองใช้นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคตในพื้นที่ สิริ เวนเจอร์ส ไพรเวท พร็อพเทค แซนบ็อกซ์ ที่โครงการ ที77 โดยมีนวัตกรรมที่จะเข้ามาพัฒนาและทดลองใช้ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ รถยนต์ไร้คนขับ ร่วมมือกับ AIROVR ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับขนส่งผู้โดยสารจากโครงการที่อยู่อาศัยไปยังรถไฟฟ้าและส่งกลับ ใช้เซนเซอร์สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ ระบบบ่งชี้ตำแหน่งและการนำทาง ระบบควบคุมและสั่งการ และ แผนที่ 3D ความละเอียดสูง เริ่มต้นจากการนำร่องทดลองวิ่งเฉพาะภายในโครงการ ที77 ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งถือเป็นการทดลองวิ่งรถยนต์ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในไทย
นายจิรพัฒน์ กล่าวว่า ทดสอบ โดรน เดลิเวอรี่ ร่วมมือกับ Fling สตาร์ทอัพผู้พัฒนาโดรนสัญชาติไทย นำโดรนมาใช้ทดลองส่งสินค้าจากฮาบิโตะ มอลล์ไปยังโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริในพื้นที่โครงการ ที77 คาดว่าจะเริ่มทดลองได้ หลังจากผ่านขั้นตอนการขออนุญาตหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และร่วมมือกับ SoundEye สตาร์ทอัพผู้พัฒนาแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ พร้อมเทคโนโลยีเรียนรู้เสียงต่างๆ ช่วยตรวจจับเสียงผิดปกติ อาทิ เสียงร้องขอความช่วยเหลือเสียงน้ำรั่วซึม เสียงปืน ในอาคารประเภทต่าง ๆ มาแล้วหลายแห่งในสิงคโปร์ รวมถึงในสนามบินชางฮี โดยจะเริ่มทดลองในพื้นที่โครงการ ที77 ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยหากสามารถพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ได้จริงในอนาคตและขยายการให้บริการมากขึ้น จะทำให้มีความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
