หอการค้าเสนอแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยดูแลบาทเพิ่มอีก ห่วงเกษตรอ่วมสุด หนุนไทยศูนย์กลางการเงิน-ใช้สกุลเงินท้องถิ่นลดความผันผวน

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังจากการหารือกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ ธปท. ว่าทางเอกชนขอบคุณธปท. ที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยลงมา0.25% อยู่ที่1.50% ซึ่งทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาเล็กน้อยช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ในระดับหนึ่งอย่างไรก็ตามยังมีความกังวลต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาต่อเนื่องในช่วง4 ปีที่ผ่านมาคาดหวังว่าธปท. จะมีมาตรการอื่นๆออกมาอีกซึ่งในส่วนข้อเสนอของทางหอการค้าที่ได้เสนอไปโดยเสนอให้ธปท. มีการลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นอีกเพื่อดูแลค่าเงินบาทการดูแลโดยใช้วาจา การแทรกแซงที่มากขึ้น รวมทั้งหากพบสัญญาณการเก็งกำไรอาจจะใช้มาตรการหนักโดยการดูแลการไหลเข้าออกของเงินทุนซึ่งปกติของที่นานาชาติทำอยู่แล้วแต่ปัญหาของไทยคือเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงซึ่งระยะต่อไปทั้งธปท.และเอกชนอาจจะต้องหารือกันเพื่อให้โครงสร้างเศรษฐกิจเหมาะสมในการดูแลค่าเงินบาท

ภาคส่วนที่น่าเป็นห่วงคือภาคเกษตรที่เป็นภาคธุรกิจที่มีกระบวนการผลิตและวัตถุดิบจากในประเทศทั้งหมดการที่ค่าเงินบาทแข็งค่ามากสวนทางประเทศคู้ค้าที่อ่อนค่ากระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรรวมทั้งจะมีนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงซึ่งรัฐบาลหาเสียงไว้มากระทบทำให้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นอีกทั้งนี้สงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นทำให้จีนมีมีการปรับค่าเงินหยวนอ่อนค่าไปที่7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐซึ่งจีนเป็นทั้งผู้ส่งออกและผู้นำเข้ารายใหญ่ของโลกการที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าจะกระทบต่อการส่งออกไทยไปจีนเพิ่มขึ้นได้โดยนายวิรไทผู้ว่าธปท. รับทราบข้อเสนอทั้งมาตรการเบากลางและหนักซึ่งจะมีการนำไปศึกษาเพิ่มเติมว่าจะดำเนินการได้เพิ่มเติมหรือไม่นายกลินท์ กล่าว

นายกลินท์ กล่าวว่า หอการค้ายังได้มีการหารือกันว่าจะสามารถสนับสนุนไทยให้เป็นศูนย์กลางการเงินได้อย่างไรเพราะปัจจุบันศูนย์กลางการเงินอยู่ที่สิงคโปร์แม้ว่าต้องจะต้องการเข้ามาลงทุนในไทยแต่ยังต้องผ่านบริษัทแม่ที่สิงคโปร์และใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นหลักทั้งนี้แม้ว่าธปท. อยากจะสนับสนุนให้มีการใช้สกุลเงินทองถิ่นมากขึ้นแต่หากไทยไม่ได้เป็นศูนย์กลางการเงินก็ยังต้องใช้ดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายอย่างไรก็ตามธปท. ระบุว่าสัดส่วนการใช้สกุลเงินท้องถิ่นพบว่าเพิ่มขึ้นโดยปัจจุบันมีการใช้เงินบาทกับออสเตรเลีย34% เมียนมา50% และสปป.ลาว60% ซึ่งหอการค้าเห็นด้วยและอยากส่งเสริมให้เอกชนที่ทำการค้าต่างประเทศมีการใช้เงินบาทมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงความผันผวนของดอลลาร์สหรัฐนอกจากนี้ได้มีการหารือเรื่องมาตรการกำกับดูแลที่อาศัยใหม่(มาตรการแอลทีวี) ด้วย

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image