นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ให้เป้าหมายคาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะอยู่ในระดับ 1,700 จุด โดยคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง. อาจจะทำให้ดัชนีปรับระดับขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ให้ไว้ด้วย เนื่องจากการลดดอกเบี้ย มีส่วนกดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) ลดลง เมื่อผลตอบแทนได้ผลตอบแทนน้อยนักลงทุนก็จะหันมาลงทุนในตลาดอื่นแทน ซึ่งน่าจะมีการปล่อยเงินมายังตลาดหุ้นได้มากขึ้น โดยหลักๆ ก็คาดหวังว่าจะมีการลงทุนจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติเพิ่ม แต่เบื้องต้นคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) จะยังชะลอตัว จนกว่าปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน (เทรดวอร์) จะมีความชัดเจนมากขึ้นในวันที่ 1 กันยายนนี้
นายภราดร กล่าวว่า สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการแจก 1,500 กระตุ้นการท่องเที่ยว เบื้องต้นจะเป็นส่วนช่วยหนุนให้เกิดบรรยากาศเชิงบวกกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะหุ้นโรงแรมหลัก ได้แก่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL แต่ที่จริงแล้วสัดส่วนลูกค้าของ 3 โรงแรมหลัก ที่ผ่านมาเป็นนักท่องเที่ยวไทยเพียง 10-15% ส่วนที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ต้องดูว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถหนุนให้นักท่องเที่ยวไทยเข้าพักได้เพิ่มหรือไม่
“สถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวที่ผ่านมาไม่ค่อยดี เพราะการท่องเที่ยวเติบโตเพียง 1.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ซึ่งสาเหตุหลักก็มาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ชะลอการเดินทางท่องเที่ยว เพราะเกิดความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่าง บวกกับการปล่อยให้ค่ากลางเงินหยวนอ่อนค่าลงแรงสุดในรอบ 11 ปี จึงเป็นต้นเหตุทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยน้อยลง แต่ก็ยังมีเรื่องดีๆ เพราะปกติแล้วธุรกิจโรงแรมจะดีขึ้นในไตรมาส 3 และดีที่สุดในช่วงไตรมาส 4 เพราะจะมีการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูการท่องเที่ยวเยอะขึ้น”
นายภราดร กล่าวว่า คำแนะนำในการลงทุนคือ ให้รอจนกว่าจะมีการรายงานผลดำเนินการในไตรมาส 2 ออกมาก่อน จึงค่อยเลือกเข้าลงทุนต่อไป เพราะถึงแม้ภาคการท่องเที่ยวที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังน่าจะฟื้นได้จาก 3 ปัจจัยหลักคือ ธุรกิจดีขึ้นตามไตรมาส มาตรการของภาครัฐที่อาจจะมีออกมากระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นกลับจากการชะลอตัวช่วงครึ่งปี เนื่องจากฐานในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ที่ค่อนข้างต่ำ เพราะนักท่องเที่ยวจีนหายไปในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุทางน้ำขึ้น
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
