“EA” โชว์กำไร Q2 ทำสถิติใหม่ 1,442 ล้านบาท บุ๊ครายได้โซลาร์ฟาร์ม-วินด์ฟาร์มครบ 664 MW ปี63 ลุยแบตฯลิเที่ยมรับธุรกิจรถอีวี

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/62 ว่ามีกำไรสุทธิจำนวน 1,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 458 ล้านบาท หรือ 46% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 985 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 จำนวน 2,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 616 ล้านบาท หรือ 30% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,307 ล้านบาท (ไม่นับรวมกำไรทางบัญชีที่เกิดจากการรวมธุรกิจ Amita Technologies Inc., ไต้หวันจำนวน 895 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1 ปี 2561) ส่วนรายได้รวมบริษัทในไตรมาส2/62 อยู่ที่ 3,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 715 ล้านบาท หรือ 24% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 2,926 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 มีรายได้รวม 6,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 869 ล้านบาท หรือ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไม่นับกำไรทางบัญชีที่เกิดจากการรวมธุรกิจ Amita Technologies Inc., )

“รายได้และกำไรที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาส 2 นี้ ได้รับปัจจัยหนุนสำคัญจากการผลิตไฟฟ้าของโครงการหนุมาน โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่แล้วเสร็จและจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ครบทั้ง 260 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ณ ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมรวมทั้งสิ้น 664 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ สภาพความเร็วลมดีกว่าที่คาดไว้และดีกว่าปีก่อน ส่งผลให้โรงไฟฟ้าพลังงานลมสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นถึง 239% สร้างรายได้ในไตรมาสนี้ 1,015 ล้านบาท ประกอบกับความเข้มของแสงแดดที่สูงกว่าปีก่อน ส่งผลให้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงขึ้นกว่าปีก่อน 6% มีรายได้ในไตรมาสนี้ 1,674 ล้านบาท และยังได้ราคาขายเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นตามค่าเอฟทีด้วย” นายอมรกล่าว

สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล ในไตรมาส 2/62 มีรายได้รวม 827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 806 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ สามารถเพิ่มปริมาณการจำหน่ายได้ถึง 28% แต่ราคาขายเฉลี่ยลดลง ตามภาวะราคาวัตถุดิบที่ลดลงเนื่องจากผลผลิตปาล์มล้นตลาด ส่วนธุรกิจกลีเซอรีนบริสุทธิ์ ในไตรมาส 2/62 รายได้รวม 58 ล้านบาท ลดลง 18 ล้านบาท หรือลดลง 24% โดยมีสาเหตุหลักมาจากอุปทานในตลาดภูมิภาคเพิ่มขึ้น จากการที่ประเทศอินโดนีเซียเร่งผลิต B100 ตามนโยบายของรัฐบาลอินโดนีเซียที่บังคับใช้ B20 ส่งผลให้มีการผลิตกลีเซอรีนซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ออกมามากขึ้นด้วย จนราคาขายปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ขยายส่วนแบ่งตลาดในประเทศมากขึ้นจึงมีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึง 16%

นายอมรกล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ และปี 2563 ว่าบริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 9,200 ล้านบาท เน้นน้ำหนักที่โครงการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนเฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 1 GWh ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ เพื่อนำไปใช้ในโครงการยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) เรือไฟฟ้า และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแห่งใหม่ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการลงทุนสร้างโรงผลิตกรีนดีเซลและพีซีเอ็มที่เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มขั้นสูงและเป็นลิขสิทธิ์ของกลุ่มบริษัทเอง สามารถส่งออกและทดแทนการนำเข้า โดยเงินที่ใช้สำหรับการขยายการลงทุนในครั้งนี้มาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ และเงินกู้ยืมระยะยาว โดยในส่วนของธุรกิจใหม่ทั้งหมดจะเริ่มรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า ผลักดันให้รายได้และกำไร ในปี 2562-2563 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image