‘มาเรียม’ ดีขึ้น แพทย์เตรียมย้ายไปภูเก็ตหนีพะยูนหนุ่มจ้องผสมพันธุ์ หวั่นช็อก

อาการพะยูนน้อย “มาเรียม” เริ่มดีขึ้น ขณะที่ทีมแพทย์ยังดูแลใกล้ชิด เบื้องต้นทางเจ้าหน้ายึดแผนเดิมคือ หากมาเรียมดีขึ้นเตรียมย้ายไปอนุบาลต่อที่ จ.ภูเก็ต เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากอนุบาลในระบบเปิด เสี่ยงมาเรียมจะถูกพะยูนตัวโตเต็มวัยที่อาจจะเข้ามาผสมพันธุ์ในพื้นที่ไล่คุกคามจนมาเรียมตกใจ และเกิดอาการช็อกตามมาอีก

วันที่ 14 สิงหาคม ทีมสัตวแพทย์จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยังคงตรวจรักษาดูแลอาการป่วยของมาเรียมอย่างใกล้ชิด โดยยังคงจัดเวรยามเฝ้าดูแลมาเรียมตลอด 24 ชม. เบื้องต้นพบว่าอาการป่วยเริ่มดีขึ้น แข็งแรงขึ้นมาก โดยแพทย์ต้องให้กลูโคส วิตามินและสารอาหารต่างๆ เพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงดังเดิม การหายใจปกติ มีกลิ่นลดลง อัตราการหายใจ 2-6 ครั้งใน 5 นาที อัตราการเต้นของหัวใจ 114 ครั้งต่อนาที อาการมาเรียมดีขึ้น มีการตอบสนองในทางที่ดีต่อยาต้านเชื้อ เริ่มกินหญ้าได้เองบ้าง อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงแสดงว่าดีขึ้น กลั้นหายใจได้นานขึ้น ดำน้ำและว่ายน้ำได้ดีขึ้น แต่ทีมสัตวแพทย์ยังคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯและกลุ่มพิทักษ์ดุหยง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังคงต้องเตรียมใช้แผนสำรองต่อไป ทั้งแผนสำรองฉุกเฉิน ซึ่งมี 2 แนวทาง คือ 1.การนำตัวมาเรียมขึ้นมาอนุบาลในบ่อริมฝั่งบริเวณอ่าวดูหยง และ 2.การนำมาเรียมไปอนุบาลภายในบ่ออนุบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ซึ่งขณะนี้ทาง มทร.ศรีวิชัยมีการเตรียมพร้อมบ่ออนุบาลไว้แล้ว 2 บ่อ คือ บ่อแปดเหลี่ยม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 เมตร และบ่ออนุบาลขนาดใหญ่ รวมทั้งมีระบบน้ำไหลเวียน เพื่อเตรียมพร้อมไว้รองรับการอนุบาลมาเรียม และจัดเตรียมบุคลากรไว้รับมือพร้อมแล้ว แต่หากมาเรียมปลอดภัยและสามารถเคลื่อนย้ายได้ทางกองทัพเรือก็มีการเตรียมพร้อมเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเคลื่อนย้ายมาเรียมไปอนุบาล โรงพยาบาลศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ตต่อไป เพื่อความปลอดภัยของมาเรียม เนื่องจากอนุบาลในระบบเปิดบริเวณหน้าเขาบาตูปูเต๊ะ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง เสี่ยงมาเรียมจะถูกพะยูนตัวโตเต็มวัยที่อาจจะเข้ามาผสมพันธุ์ในพื้นที่ไล่คุกคามจนมาเรียมตกใจ และเกิดอาการช็อกตามมาอีก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image