เครือข่ายมะพร้าวเมินร่วมเสวนาคณะอนุกมธ.เดินสายไปประจวบฯ ยันเดินหน้าพบ 2 รมต.แก้ไขปัญหาเร่งด่วน
วันที่ 14 สิงหาคม นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ แกนนำผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องมะพร้าวและสับปะรด สภาผู้แทนราษฎร มีแผนนำคณะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางเดินทางไปประขุมและศึกษาดูงานที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 19-20 สิงหาคม 2562 เพื่อกำหนดและเสนนอมาตรการแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ ยืนยันว่าตัวแทนเครือข่ายฯจะไม่ร่วมรับฟังและเสนอข้อมูล หลังจากยื่นข้อเสนอ 10 ประเด็นเพื่อแก้ปัญหาการนำเข้ามะพร้าวและเร่งแก้ปัญหาราคาตกต่ำ ผ่าน สส.พื้นที่ถึงรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง แต่ล่าสุดยังไม่มีความชัดเจน จากนั้นจะประชุมแกนนำเครือข่ายในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เพื่อนำมวลชนไปทวงถามข้อเรียกร้องที่ กทม.ต่อไป
“การเดินทางมาศึกษาดูงานครั้งนี้ไม่มีประโยชน์ ถูกตั้งข้อสังเกตว่าสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็นหรือไม่ เพราะชาวสวนเดือดร้อนมานานกว่า 2 ปี ส่วน 3 ตัวแทนเครือข่ายที่เข้าไปทำหน้าที่ในอนุ กมธ. ทราบว่าบางรายได้รับเสนอเงื่อนไขให้ไปทำหน้าที่คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ทำให้การเสนอข้อมูลอาจทำได้ไม่เต็มที่ ขณะที่ราคามะพร้าวที่ขยับขึ้นเล็กน้อยจากเดิมผลละ 5 – 6 บาท ในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าเป็นการกระตุ้นตลาดในระยะสั้นของกลุ่มนายทุนเพื่อหาเหตุผลในการนำเข้ามะพร้าวนอก ประกอบกับผลผลิตในประเทศเริ่มลดลง สำหรับปัญหาที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำไปพิจาณามาจากการนำเข้าน้ำกะทิสำเร็จรูป ช่วง 4 เดือนแรกในปี 2562 มีการนำเข้า กว่า 1.6 หมื่นตัน เทียบเท่ามะพร้าวประมาณ 120 ล้านผล ขณะที่ข้อเสนอให้ออกใบกำกับการเคลื่อนย้ายทั่วประเทศทราบว่าได้รับการทักท้วงจากโรงงานกะทิ เนื่องจากจะมีปัญหาในการนำมะพร้าวผลไปกะเทาะนอกโรงงาน” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหามะพร้าว กล่าวว่า การนำคณะอนุ กมธ. ลงพื้นที่ต้องการให้ทุกผ่ายได้รับทราบข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการเจรจากับ ล้งหรือพ่อค้าคนกลางรับซื้อมะพร้าวใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีพื้นที่ปลุกมากที่สุดในประเทศ จะต้องมีความชัดเจนในมาตรการการตั้งราคาหรือหลักเกณฑ์ในการคำนวณค่าขนส่ง และคาดว่าจะมีขยายเวลาการทำหน้าที่ของคณะ กมธ.เพิ่มหลังจากเดิมกำหนดไว้เพียง 2 เดือน สำหรับข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายต้องยอมรับว่า 2 รัฐมนตรี เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
“ ยืนยันว่าคณะอนุกมธ.มีความตั้งใจและมีเจตนาดีกับทุกฝ่าย ต้องการแก้ไขปัญหาทั้งระบบพร้อมวางมาตรการเข้มงวดในระยะยาวไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อให้เกษตรกรขายผลิตให้คุ้มกับราคาต้นทุน หากราคามะพร้าวในประเทศยังไม่มีปัญหาก็ไม่ควรนำเข้า นอกจากนั้นต้องเร่งรัดในหน่วยงานระดับจังหวัดแก้ปัญหาการระบาดของหนอนหัวดำในสวนมะพร้าวที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กว่า 700 ไร่ “นายประมวล กล่าว
