รุดตรวจร้านค้าทุเรียนริมถนน หลังผู้บริโภคร้องเรียน ‘ราคาไม่ชัดเจน-เครื่องชั่งไม่ตรง’ จี้แม่ค้าเร่งปรับแก้ ตรวจซ้ำแล้วยังผิด มีโทษทั้งจำและปรับ
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีความห่วงใยประชาชนผู้บริโภคที่จับจ่ายซื้อสินค้าในพื้นที่จังหวัด ว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือได้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐานกลับไป จึงมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด พร้อมสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่สุ่มตรวจสินค้าในร้านค้าต่างๆ เพื่อเป็นการป้องปราม โดยเฉพาะร้านค้าที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมถนนที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ขับขี่สัญจรผ่านเส้นทางต่างๆ ทั้งคนในพื้นที่และนอกพื้นที่จังหวัด เพราะมีความเสี่ยงจะถูกหลอกให้ซื้อสินค้าที่ไม่มีคุณภาพได้ง่าย ประกอบกับที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า มีการจำหน่ายทุเรียนเกินราคาจากป้ายที่ติดแสดงไว้หน้าร้าน โดยติดราคาไว้ 80 บาท เพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้เข้าใจว่า ที่ร้านค้าแห่งนี้จำหน่ายทุเรียนในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป แต่เมื่อไปซื้อปรากฏว่า แม่ค้าขายในราคากิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งไม่ตรงกับราคาที่ติดแสดงไว้ ทำให้ผู้บริโภคที่แวะจอดรถเพราะตั้งใจจะซื้อในราคา 80 บาท ต่างเสียความรู้สึกไปตามๆกัน
ในวันนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ และสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดนครราชสีมา จึงนำทีมเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจร้านจำหน่ายทุเรียน จุดที่ได้รับการร้องเรียนบริเวณถนนบายพาสโคราช-ขอนแก่น ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่า มีร้านจำหน่ายทุเรียนรายย่อย ตั้งแผงอยู่ริมถนน จำนวนกว่า 10 ร้าน และทุกร้านจะติดป้ายแสดงราคา 80 บาทไว้ที่ริมถนนและหน้าร้าน โดยแต่ละร้านค้าจะติดป้ายราคาไว้ในราคาเริ่มต้นที่ 80 บาท และมีทุเรียนอยู่หลายขนาด หลายพันธุ์ พาณิชย์จังหวัด จึงชี้แจงทำความเข้าใจเจ้าของร้านให้ติดป้ายระบุราคาให้ชัดเจน ว่าแต่ละขนาดราคาเท่าใด และเป็นทุเรียนพันธุ์อะไร จะได้ไม่เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค นอกจากนี้ สินค้าทุกชิ้นต้องมีคุณภาพสดใหม่ ไม่เป็นทุเรียนอ่อนหรือแก่เกินไปจนรับประทานไม่ได้ รวมถึง ตราชั่งของร้านค้าจะต้องตั้งแสดงไว้ให้ลูกค้าเห็นอย่างชัดเจน ไม่ใช่เอาทุเรียนมาวางกองบดบังเข็มตาชั่ง และจะต้องมีสติกเกอร์ของสำนักชั่งตวงวัดปิดแสดงเอาไว้ด้วย เพื่อการันตีว่าตาชั่งของร้านค้าได้มาตรฐาน ไม่โกงตาชั่ง เพื่อผู้บริโภคจะได้มีความมั่นใจว่าจะถูกเอารัดเอาเปรียบ
ด้านนางเข็มทราย ระหาญนอก หัวหน้าสำนักงานสภาชั่งตวงวัดนครราชสีมา กล่าวว่า โดยทั่วไป หากตรวจพบการกระทำผิดกรณีโกงหรือมีการแก้ไขดัดแปลงเครื่องชั่ง จะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ โดยโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ปี ส่วนโทษปรับจะปรับตั้งแต่ 5,000 บาท – 120,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับมูลความผิด แต่หากเครื่องชั่งชำรุดโดยสภาพ กฎหมายก็จะให้อำนาจยึดเครื่องชั่งนั้นๆ เพื่อนำไปทำลาย แต่จะไม่มีโทษปรับหรือจำคุกเหมือนกับการดัดแปลงเครื่องชั่ง และสำหรับกรณีไม่ติดป้ายราคา จะปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งประกาศของจังหวัดฯ ได้กำหนดมาตรการทางปกครองว่า โทษปรับสำหรับร้านค้าแผงลอยเอาไว้ที่ 200 บาท ก็เพื่อให้โอกาสแก่ร้านค้าได้ปรับตัว ด้วยการนำป้ายราคามาติดแสดงไว้ให้ชัดเจน
