ผู้ว่าฯตรัง ลั่นเอาจริงปัญหาขยะในทะเล หลัง ‘มาเรียม’ ตายเพราะเศษพลาสติก

วันที่ 18 สิงหาคม นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นางเอื้อจิตร เจริญทรัพย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง และนายไมตรี แสงอริยนันท์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 10 เดินทางไปดูซากพะยูนน้อยมาเรียม ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง โดยได้นำซากพะยูนน้อยมาเรียมแช่ฟรีซแข็งไว้เพื่อรักษาสภาพไว้เช่นนั้นก่อน เพื่อรอการตัดสินใจของผู้บริการระดับสูงทั้งทางกรมอุทยานฯ และกรม ทช. ว่าจะนำซากน้องมาเรียมไปสตั๊ฟเพื่อการศึกษาในการอนุรักษ์ และเป็นการรณรงค์ลดการใช้พลาสติกเพื่อลดความเสี่ยงต่อทรัพยากรทางทะเลและลดโลกร้อน หรือจะนำซากไปฝั่งกลบในขั้นตอนต่อไป

นายลือชัยกล่าวว่า การตายของพะยูนน้อย “มาเรียม” นับว่าเป็นการสูญเสียอย่างมาก ทั้งนี้ ทางจังหวัดจะนำมาเป็นกรณีศึกษา ที่ผ่านมาพะยูนน้อยมาเรียมได้สร้างความสุขให้กับประชาชนชาวไทยทั่วประเทศรวมไปถึงชาวต่างชาติ ที่ได้รับรู้จากการนำเสนอข่าวหรือจากการไลฟ์สด ทำให้รู้จักพะยูนมากขึ้น ทั้งนี้ ทางสัตวแพทย์และจิตอาสารวมถึงเจ้าหน้าที่ได้คอยดูแลพะยูนมาเรียมเป็นอย่างดีมาตลอดระยะเวลาที่นำตัวมาจากจังหวัดกระบี่ ไม่ว่าจะเป็นการป้อนนม ป้อนหญ้าทะเล หรือพาไปว่ายน้ำ ทั้งนี้ พะยูนน้อยมาเรียมมีอาการช็อกและตกใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทีมสัตวแพทย์ต้องนำขึ้นมาเลี้ยงในบ่ออนุบาล เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา และเมื่อเวลา 00.09 น.ของวันที่ 17 สิงหาคม พะยูนน้อยมาเรียมก็ตาย และจากการผ่าพิสูจน์พบว่าในท้องมีเศษพลาสติกอยู่ภายใน ทำให้ปิดกั้นทางเดินอาหาร ส่งผลให้การให้อาหารพะยูนน้อยมาเรียมไม่สามารถรับได้จึงตายในที่สุด

“อย่างไรก็ตาม การที่ได้นำพะยูนน้อยมาเรียมอยู่ที่เกาะลิบงวันที่ 29 เมษายน จนถึงวันนี้รวมแล้วก็เป็นเวลา 111 วันพอดี ทำให้มีการเรียนรู้ในวิถีชีวิตของพะยูนมากขึ้น ต้องถือว่าเป็นบทเรียน ที่จะนำมาปรับใช้ในการอนุรักษ์พะยูนในท้องทะเลตรัง รวมไปถึงต้องเอาจริงเอาจังกับการรณรงค์ไม่ทิ้งขยะลงในทะเล โดยเฉพาะพลาสติกที่มีการย่อยสลายยากมาก เพราะที่ผ่านมาพลาสติกนั้นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ทะเลหลายชนิดเสียชีวิต จึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่าทิ้งขยะลงในท้องทะเล เพื่อให้สัตว์ทะเลได้มีชีวิตต่อไปได้ ลดการสูญเสียสัตว์ทะเลที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะพะยูนเท่านั้น ส่วนบัญชีมาเรียมเพื่อการอนุรักษ์พะยูนตรัง ซึ่งขณะนี้มียอดเงินในบัญชีกว่า 5 แสนบาทนั้น คงต้องมีการปรึกษาอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” นายลือชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image