นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 สิงหาคม 2562 กระทรวงการคลังพร้อมเสนอมาตรการกระตุ้นและดูแลเศรษฐกิจวงเงินรวม 3.1 แสนล้านบาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังครม.เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการไปเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมแล้ว โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจปีนี้โตได้กว่า 3% สอดคล้องกับตัวเลขที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาดว่าปีนี้จะโต 3% ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่สศช.ประกาศออกมา 2.3% จากไตรมาสแรกโต 2.8% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ดังนั้นรัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังดูแลไม่ให้เศรษฐกิจไทยกระทบมากเกินไป ซึ่งมาตรการเศรษฐกิจที่จะออกมานั้นมีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวไม่ต่ำกว่า 0.55-0.56%
“ล่าสุดพอเห็นตัวเลขไตมาส 2 ลดลงเหลือ 2.3% ถ้าปัญหาเศรษฐกิจโลกยังไม่คลี่คลาย ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศทั้งการเกษตร ลงทุนเอกชน การส่งออกที่ลดลงต่อเนื่องอย่างที่สศช.ประเมินไว้ ถ้าไม่มีมาตรการของรัฐมาช่วย คงประเมินลำบากว่าในช่วงที่เหลือเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งปล่อยเป็นตามธรรมชาติอาจทำให้ปีนี้จีดีพีต่ำกว่า 3% ”นายอุตตมกล่าว
นายอุตตมกล่าวต่อว่า หลังจากมาตรการเข้าครม.แล้ว ในเรื่องการช่วยภัยแล้ง และช่วยเหลือเกษตรกร ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) พร้อมจะดำเนินการทันทีช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนมาตรการแจกเงินท่องเที่ยวคนละ 1 พันบาทให้กับประชาชน 10 ล้านคนนั้นเริ่มสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกันยายน เนื่องจากต้องมีการจัดทำระบบ และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจะมาช่วยประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อให้โครงการมีความเข้มข้น และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องการใส่เงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการจะแจกทันที ในเดือนสิงหาคม และกันยายนนี้
“มาตรการกระตุ้นเริ่มใช้ทันทีในเดือนสิงหาคม ต่อเนื่องไปยังเดือนกันยายน ถึงตุลาคม ดังนั้นคาดว่าชุดมาตรการจะออกมาช่วยบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ผู้บริโภค ร้านค้าต่างๆ ได้ หลังจากนี้จะมีมาตรการของกระทรวงอื่นๆ เช่น มาตรการท่องเที่ยวเพิ่มเติม มาตรการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร ดังนั้นเชื่อว่ามาตรการของรัฐบาลจะออกมานั้นเพียงพอรับมือภาวะเศรษฐกิจในปีนี้”นายอุตตมกล่าว
นายอุตตมกล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องแจกเงินท่องเที่ยวต้องให้ลงทะเบียน เนื่องจากต้องให้ทราบตัวตนของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยมั่นใจว่ามาตรการนี้จะมีประชาชนเข้าร่วมตามเป้าหมาย 10 ล้านคน เพราะให้คืนเงินถึง 15% ถือว่าเป็นจำนวนมากน่าจะสร้างแรงจูงใจให้เข้าร่วมโครงการ จะไม่เหมือนการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) ในมาตรการช้อปตรุษจีน ดังนั้นจึงคิดว่าไม่ซ้ำรอยมาตรการช้อปตรุษจีนที่คนเข้าร่วมน้อยแน่นอน
นายอุตตมกล่าวต่อว่า นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อกระตุ้นให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) อบจ. อบต.นำเงินที่มีอยู่และกระจายอยู่ในอปท. 7,500 แห่ง มาลงทุน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง
