ม.หอการค้า หนุนรัฐอัดฉีด2-3แสนลบ.กระตุ้นศก.ครึ่งปีหลังและดันจีดีพีโตเกิน3% (มีคลิป)

ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)เปิดเผยตัวเลขจีดีพีของไทยไตรมาส2/2562 โตที่ 2.3% ถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำกว่าจากประเมินไว้ที่ 2.6-3% จึงสะท้อนถึงระบบเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวลงค่อนข้างเร็ว หากรวม 2 ไตรมาสครึ่งปีแรกจีดีพีจะโต 2.6% ถือว่ายังเป็นการขยายตัวที่สูงเทียบครึ่งแรกของปี 2561 และยังเป็นตัวเลขที่ถือว่าแม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวแต่มีสัญญาณน่าจะฟื้นตัวได้

สำหรับช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ยังมีความน่ากังวลเรื่องของสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน (เทรดวอร์) ที่ไม่ทราบว่าจะมีความรุนแรงมากเท่าใด และต้องยอมรับว่าปัญหาสงครามการค้าสถานการณ์การเมือง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยส่งผลทำให้ไม่กล้าที่จะใช้จ่ายในการบริโภคและลงทุน หากรวมกับปัจจัยภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่มีปัญหา มองว่ามีความจำเป็นที่จะต้อสร้างความเชื่อมั่นอย่างรวดเร็วและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากดูวงเงินที่รัฐบาลจะนำมาใช้จากที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าประมาณ 2-3 แสนล้านบาท ในเชิงตรรกะตัวเลขถือว่าเพียงพอต่อการพยุงเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือทำให้ทั้งปีโตได้ประมาณ 3-3.2%เพราะเม็ดเงินจะถูกใช้ทันทีในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยานนี้ อย่างน้อยประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และอาจมีการโอนให้ชาวนาอีกบางส่วน จึงน่าจะมีผลพยุงให้เศรษฐกิจไทยไม่ทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว และมองว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ควรขยายตัวได้ที่ 2.6-2.8%

นอกจากนี้ยังต้องดูมาตรการของการท่องเที่ยวที่จะมีผลเร็วมากน้อยเพียงใด และแนวทางนโยบายต่างๆ อาทิ สินเชื่อผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลาง (เอสเอ็มอี) สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อธุรกิจทั่วไป คาดว่าสถาบันการเงินเฉพาะกิจของภาครัฐคงจะระดมการปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 อย่างน้อย 50,000-100,000 ล้านบาท

Advertisement

“คาดว่าวงเงินที่จะมีการใช้ทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 จะมีประมาณ 1-2 แสนล้านบาท มีโอกาสเกิดขึ้นได้และน่าจะผลักดันให้เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 เติบโตได้ 3.5-4%  และทำให้ในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะเติบโตกรอบ 3-3.5% และทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปีมีโอกาสโต 3-3.2% ได้ “ นายธนวรรธน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image