Fi Asia เปิดเทรนด์อาหารปีหน้า อาหารสุขภาพลดเนื้อสัตว์-อาหารผู้สูงอายุมาแรง เตรียมจัดงานหนุนอุตสาหกรรมไทย-อาเซียสู้ตลาดโลก

นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ ภูมิภาคอาเซียน บริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า เตรียมจัดงาน ฟู้ดอินกรีเดียนท์ เอเชีย 2019 หรือ Fi Asia 2019 ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2562 ที่ไบเทค บางนา เป็นการจัดงานครั้งที่ 24 ของ Fi Asia เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารไทยและอาเซียนให้สามารถแข่งขันได้ในทุกตลาด โดยปีนี้มีผู้จัดแสดงสินค้าร่วมงาน 750 บริษัท จาก 50 ประเทศทั่วโลก คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน รวมถึงนักธุรกิจเข้าร่วมเจรจาซื้อขายทางธุรกิจมากถึง 20,000 ราย สำหรับการจัดงานในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 25% ในทุกปี สามารถสร้างมูลค่าจากการซื้อขายภายในงานถึง 250-300 ล้านบาทต่อปี

นางสาวรุ้งเพชร กล่าวถึงปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังยืดเยื้อว่า ทั่วโลกได้รับผลกระทบแล้ว โดยเฉพาะภาวะที่ผู้บริโภคทั่วโลกไม่กล้าใช้เงินจากที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่เติบโต ทางออกของอุตสาหกรรมอาหารรวมถึงภาคการเกษตรของไทยจำเป็นต้องมองหาช่องว่างที่เกิดจากสงครามการค้า แล้วฉวยโอกาสด้วยผลผลิตที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าประเทศอื่น ๆ ก็กำลังตั้งรับและพร้อมแข่งขันในโอกาสนี้อยู่ อย่างเช่นเวียดนามที่อยู่ใกล้จีนและมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะกลายมาเป็นคู่ค้าที่สำคัญของจีนในอนาคต ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจะต้องเร่งพัฒนาตนเองด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ก่อนที่จะถูกแซงหน้า และอาจจะเข้าไปเล่นในตลาดพรีเมี่ยมที่อยู่อีกระดับให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะผู้บริโภคมีปัจจัยในการบริโภคอยู่อย่างพอเพียง

นางสาวรุ้งเพชร กล่าวอีกว่า Fi Asia ได้จัดทำข้อมูลเทรนด์อาหารขึ้นทุกปี ซึ่งเทรนด์อาหารของปี 2020 หรือปีหน้า คือโปรตีนแทนเนื้อสัตว์และโปรตีนสายพันธุ์ใหม่ ที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 6,725 ล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัว 6.4% ตามความนิยมบริโภคอาหารโปรตีนสูงเพื่อสร้างสมดุลทางโภชนาการทดแทนเนื้อสัตว์ โดยมี Plant Based Food เป็นดาวรุ่งของเทรนด์ปีหน้า นอกจากนี้ ยังมีอาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพ ที่คำนึงถึงปัจจัย 5 ประการ คือ มีปริมาณน้ำตาลน้อย ไขมันอิ่มตัวต่ำ ไขมันรวมต่ำ มีใยอาหาร และมีโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอ คาดการณ์ว่าตลาดอาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพของโลกจะมีมูลค่าประมาณ 10,551 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 อาหารสำหรับผู้สูงอายุและโภชนาการแบบเฉพาะบุคคล เพราะประชากรโลกกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็นต้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image