ฝนตกถนนลื่น รถบรรทุก เสียหลักพุ่งชนงานศิลปะพังเสียหาย ศิลปินเซ็งหมดทางแก้

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 20 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงรายทำให้ถนนบางจุดลื่นและได้ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนถนนพหลโยธิน บริเวณหน้าอาคารขัวศิลปะ เลขที่ 551 หมู่ 1 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ ได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกหกล้อได้พุ่งชนผลงานทางศิลปะของศิลปินที่ตั้งอยู่ใกล้กับขอบถนนจนพังเสียหายไปหลายรายการจึงได้ไปตรวจสอบ พบอาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะและศิลปินหลายคนพร้อมผู้ที่ขับรถพุ่งชนอยู่บริเวณดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่ารถที่ขับรถชนเป็นรถบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 82-1110 เชียงราย สภาพท้ายรถพุ่งชนกับเสาไม้และโครงอลูมิเนียมที่ตั้งอยู่บนทางเดินที่สร้างเป็นเกาะด้านหน้าอาคารติดกับลานจอดรถ จนทำให้รถควบอยู่ด้านบนเกาะ ส่วนความเสียหายพบว่ามีเสาไฟฟ้าล้มเสียหาย 1 ต้น เสาไม้แกะสลักที่เป็นผลงานของศิลปินล้มเสียหาย 1 ต้น และเกือบล้มรวมทั้งเอนลงเสียหายอีกหลายต้นส่วนโครงโลหะอลูมิเนียมที่โยงอยู่ด้านบนก็ถูกชักจนตกลงมาเสียหาย ส่วนคนขับรถเป็นชายปลอดภัย

จากการสอบถามเบื้องต้นและตรวจจากกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าอาคารขัวศิลปะทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีฝนตกและน้ำท่วมขังตรงขอบทางหลายจุด กระทั่งรถยนต์บรรทุกหกล้อได้ขับมาจากทางเทศบาลนครเชียงรายมุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือจะไปทางสี่แยกท่าอากาศยาน-ตลาดบ้านดู่ ปรากฎว่ารถได้เกิดการหมุนเวียนเคว้งอยู่กลางถนนประมาณ 40 เมตร ก่อนจะไถลเอาส่วนท้ายพุ่งเข้าชนกับเกาะที่ตั้งผลงานทางศิลปะดังกล่าวท่ามกลางรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถหลายคัน และบรรดาศิลปินรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่แวะเข้าไปชมผลงานทางศิลปะจำนวนมาก

อาจารย์สุวิทย์ กล่าวว่าผลงานทางศิลปะดังกล่าวถือเป็นประติมากรรมชื่อมิตรภาพที่ออกแบบร่วมกันระหว่างอาจารย์กมล ทัศนชาลี ศิลปินแห่งชาติชื่อดัง อาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปินชื่อดังจากขัวศิลปะของเรา และอาจารย์คัทสึมิ มูไก ศิลปินชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังเช่นกัน โดยทั้งหมดได้สร้างสรรผลงานดังกล่าวเอาไว้ด้านหน้าอาคารขัวศิลปะในโอกาสสร้างอาคารดังกล่าวเมื่อประมาณ 8 ปีก่อนจึงถือเป็นผลงานที่ประเมินค่าไม่ได้ เมื่อสอบถามคนขับรถบรรทุกหกล้อก็ทราบว่าเขาเองก็พึ่งซื้อรถทำให้ไม่มีประกันรถและยังต้องผ่อนชำระเดือนละ 30,000 บาท ปัจจุบันยังต้องเลี้ยงดูลูกเมียอีกทำให้ทางขัวศิลปะไม่รู้จะทำเช่นใด

Advertisement

อาจารย์สุวิทย์ กล่าวว่ากรณีเสาไฟฟ้าก็มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มาดูและประเมินราคาไม่กี่หมื่นบาทแล้วซ่อมแซมได้แต่หากเป็นผลงานทางศิลปะคงทำสิ่งใดไม่ได้จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนความเสียหายของผลงานจะมีการแจ้งต่ออาจารย์ผู้ร่วมกันสร้างดังกล่าวต่อไป กระนั้นก็ถือว่าโชคดีเพราะหากว่าไม่มีเกาะและเสาผลงานทางศิลปะที่อยู่ด้านหน้ารถอาจพุ่งเข้าไปยังลานจอดรถที่มีรถของนักท่องเที่ยวจอดเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมากและมีผู้คนอยู่ด้านในด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image