เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า พบซากโลมาลอยตายอยู่กลางทะเลบริเวณบ้านอ่าวน้ำเมา หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จากนั้นนายสมควร ขันเงิน รอง ผวจ.กระบี่ พร้อมด้วยนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หน.อุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ จึงไปตรวจสอบ พบโลมาลายแถบ เพศเมีย โตเต็มวัย ยาว 2 เมตร หนักประมาณ 70 กก. บริเวณท้องมีบาดแผล คาดว่าตายมาแล้ว ประมาณ 1-2 วัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บชิ้นเนื้อบางส่วน ส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการตาย ก่อนนำซากไปฝังกลบไว้
นายสมควร กล่าวว่า โลมาที่ตาย เป็นการตายผิดปกติจากธรรมชาติ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเพราะสาเหตุใด ต้องรอการหาข้อมูลที่ชัดเจนต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า โลมาลายแถบ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี 2535
วันเดียวกัน เวลา 07.30น. ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ (ศอพต.) ได้รับแจ้งจาก จส.100 ว่าพบซาก “เต่าทะเล” เกยตื้นเสียชีวิตที่บริเวณหาด นาจอมเทียน ซ.14 จ.ชลบุรี ทาง ศอพต. จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปรับซากและนำกลับมาให้สัตวแพทย์ประจำศูนย์ ศอพต.ทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นหลังจากที่สัตวแพทย์ประจำศูนย์ ศอพต. เข้าทำการตรวจสอบพบว่าเป็นซาก “เต่ากระ” (Eretmochelys imbricata) ขนาดกระดอง กว้าง 27 x ยาว 31 cm ไม่ทราบเพศ ช่วงอายุวัยเด็ก อายุประมาณ 1-2 ปี ไม่พบเลขรหัสไมโครชิพ สภาพซากเน่ามาก
สภาพภายนอก ตัวบวมพอง เกล็ดบริเวณกระดองหลุดลอก สาเหตุเกิดจากขบวนการแปรสภาพซากเน่า ผลชันสูตร อวัยวะภายในยุ่ยสลายเกือบทั้งหมด ในระบบทางเดินอาหารพบเศษขยะทะเล เช่น เชือกฟาง เชือกอวนไนล่อน ถุงพลาสติก เศษพลาสติกชนิดแข็ง และชิ้นส่วนยาง จึงทำให้นำมาสรุปสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นได้
