วันที่ 25 สิงหาคม นายประวัติศาสตร์ จันทรเทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ทำหนังสือ รายงานนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ เรื่องการเข้าตรวจสอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน และพบกับกลุ่มชาวต่างชาติลักลอบตัดไม้พะยูง โดยระบุว่า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานได้ตรวจสอบพบร่องรอยการลักลอบเข้าพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณป่าด้านทิศตะวันตกโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโสมงท้องที่ ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โดยคาดว่าเป็นกลุ่มบุคคลไม่ต่ำกว่า 10 คน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ส่วนกลางเพื่อติดตามกลุ่มผู้ลักลอบเข้าป่า
จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ลาดตระเวนถึงบริเวณหุบอีปี้ง พิกัด 48 P 179560 – 1565836 ปรากฏพบที่พักของบุคคลที่ลักลอบเข้าป่า จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม สามารถจับกุมบุคคลต่างชาติ (กัมพูชา) ได้จำนวน 1 คน ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียดพบเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง และเป้เสบียงจำนวน 20 เป้ รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน จากการสอบถามชาวกัมพูชาซึ่งไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้
“ทราบว่า ผู้กระทำผิดมีจำนวน 20 คน และมีคนไทยนำทาง จำนวน 2 คนร่วมเข้ามาตัดไม้พะยูงในครั้งนี้” นายประวัติศาสตร์ระบุ
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานระบุด้วยว่า ก่อนออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเผาเศษขยะและเสบียงอาหารทั้งหมดเพื่อมิให้กลุ่มผู้กระทำผิดที่หลบหนีสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ได้ โดยใช้น้ำมันเบนซินที่ตรวจยึดได้เป็นเชื้อเพลิงจุดไฟ แต่ในขณะที่จุดไฟ เนื่องด้วยมีฝนตกสภาพพื้นเปียกชื้น น้ำมันจึงลอยเหนือผิวน้ำที่ไหลไปทางเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดเปลวไฟลุกเป็นบริเวณกว้างทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 นาย คือ นายป่าเหนือ ชีวะธรรม อายุ 22 ปี พนักงานพิทักษ์ป่า ลูกจ้างทีโออาร์ โดยได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนทั้ง 2 ข้าง และใบหน้าโดนไฟไหม้เป็นแผลพุพอง ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรีอย่างเร่งด่วน ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว โดยภายหลังการรักษาแผลแพทย์ให้นอนพักเพื่อดูอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ อุทยานฯทับลานได้จัดเจ้าหน้าที่และดูแลอย่างใกล้ชิด
นานประวัติศาสตร์กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาได้นำตัวมาที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน เพื่อสืบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ นายป่าเหนือนั้น เป็นลูกชายของนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ซึ่งเพิ่งเรียนจบจากคณะวนศาสตร์ รุ่น 81 และมาปฏิบัติงานที่อุทยานแห่งชาติทับลาน หลังจากเกิดเหตุ นายประวัติศาสตร์แจ้งไปยังนายชีวะภาพ แต่นายชีวะภาพอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่สามารถเดินทางมาดูแลลูกชายได้
อย่างไรก็ตาม นายชีวะภาพได้ส่งข้อความมาว่า เป็นห่วงลูกชาย แต่เข้าใจว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมาก ดีใจที่ลูกชายเดินตามรอยทำหน้าที่ดูแลป่าเหมือนกับตน ทั้งนี้ การปฏิบัติงานในพื้นที่ย่อมมีความเสี่ยงอันตรายจากรอบข้างเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อตนปฏิบัติภารกิจเสร็จก็จะไปเยี่ยมลูกชายทันที
