‘ศรีสุวรรณ’ ลุยสอบที่บางปู ชี้นักการเมืองใหญ่ออกโฉนดขายให้นายทุนใหญ่ส่อผิด กม. เข้าข่ายฮุบที่ดินสาธารณสมบัติแผ่นดิน ชี้ ครม.เคยมีมติให้ดำเนินคดีผู้บุกรุก

วันที่ 25 สิงหาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ในที่ดินราชพัสดุ พื้นที่หมู่ 4 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ติดถนนสุขุมวิทด้านทิศใต้ชายฝั่งทะเล ซึ่งปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประกาศพระบรมราชโองการของรัชกาลที่ 6 พระราชทานไว้ให้เพื่อใช้ในการระบายน้ำ มาตั้งแต่ พ.ศ.2467 แต่ปรากฏว่าเมื่อปี 2533 สำนักงานที่ดิน จ.สมุทรปราการ เห็นชอบให้เอกชนสามารถนำไปยื่นขอออกโฉนดได้ ทั้งที่ชาวบ้านมีหลักฐานชัดเจนว่าที่ดินดังกล่าวเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หรือเป็นที่ราชพัสดุ ไม่สามารถออกโฉนดได้

“ที่ดินดังกล่าวคณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2538 โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้นเป็นประธาน มีอธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมธนารักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการ จ.สมุทรปราการ เป็นกรรมการ ผลการตรวจสอบชัดเจนว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินเขตประกาศพระบรมราชโองการของรัชกาลที่ 6 พระราชทานไว้ให้เพื่อการระบายน้ำ ครอบคลุม 7 จังหวัด ในแต่ละจังหวัดไม่ปรากฏว่ามีจังหวัดอื่นนำที่ดินในเขตประกาศฯไปออกโฉนดได้ เว้นแต่ จ.สมุทรปราการ ที่ปล่อยให้นายทุนเอกชนนำไปออกโฉนดเกือบ 50 ไร่” นายศรีสุวรรณกล่าว

เลขาธิการสมาคมฯกล่าวว่า ต่อมา ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2538 ให้กรมธนารักษ์และกรมชลประทาน ดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกหรือนำที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินไปออกโฉนดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่จนบัดนี้หน่วยงานดังกล่าวยังไม่ดำเนินการเรียกคืนที่สาธารณะดังกล่าวกลับคืนให้แผ่นดินแต่อย่างใด ทั้งยังปรากฏว่าที่ดินดังกล่าวถูกกลุ่มนายทุนร่วมมือกับนักการเมืองใหญ่ระดับชาตินำไปขายให้กับนายทุนนำไปก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนชาวบ้านคนยากคนจนที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ดินบริเวณดังกล่าวมากว่า 50-60 ปี กำลังถูกกลุ่มนายทุนเจ้าของที่ดินรายใหม่ที่ได้โฉนดที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไล่ฟ้องคดีขับไล่ชาวบ้านและบังคับคดีอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้ชาวบ้านที่ถูกขับไล่รวมตัวร้องขอความช่วยเหลือมายังสมาคมฯเพื่อขอให้ช่วยปกป้องสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โดยสมาคมฯจะนำข้อเท็จจริงไปทวงถามนายกรัฐมนตรีและ ครม.ตามความประสงค์ของชาวบ้านต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image