นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางอโศก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษว่า หลังจากได้ให้นโยบายเร่งด่วนในการยกไม้กั้นหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางออก ทั้งในช่องชำระค่าผ่านทางรูปแบบเงินสด และแบบอัตโนมัติผ่านระบบบัตรเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติ (เอ็มพาส) และระบบบัตรเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ (อีซี่พาส) เพื่อช่วยลดทอนระยะเวลาในการจ่ายค่าผ่านทางในทุกรูปแบบ รวมถึงเพื่อช่วยแก้ปัญหารถติดหน้าด่านในช่วงเวลาเร่งด่วน ทั้งช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-09.00 น. ช่วงเย็น 15.00-20.00 น.
“ได้ทดสอบด้วยการยกไม้กั้นขึ้น แล้วปล่อยให้รถยนต์ผ่านเข้าช่องทางเก็บค่าผ่านทางตามปกติ และทำการจับเวลารถที่ผ่านทางเข้าบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ ซึ่งพบว่าในช่องทางอัตโนมัติ รถยนต์สามารถผ่านเข้าได้ประมาณ 15 คันต่อนาที ส่วนช่องเงินสดสามารถผ่านเข้าได้ 12 คันต่อนาที สำหรับปัญหาที่พบคือ เมื่อยกไม้กั้นขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนสามารถผ่านทางได้สะดวก แต่ประชาชนยังไม่ทราบว่าจะมีการทดสอบจึงหยุดรถสอบถาม ทำให้เกิดการจราจรติดขัดต่อเนื่อง จึงสั่งการให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ดำเนินการประชาสัมพันธ์แผนการทดสอบผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง”นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้ากทพ.จะต้องทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติทดสอบที่หน้าด่านจริงในช่วงสัปดาห์ถัดไป โดยจะนำร่องบริหารจัดการที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษอโศก 3 (ขาออก) และด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษอโศก 4 (ขาเข้า) ในช่วงระยะเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น ในส่วนช่องเก็บเงินสดจะมีการทดสอบโดยจัดเจ้าหน้าที่ 10 คน เพื่อจำหน่ายคูปองเงินสดให้กับรถที่รอต่อคิวในช่วงเวลาเร่งด่วน เนื่องจากพบว่า ที่ผ่านมาปัญหาการจราจรติดขัดส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากช่องเก็บเงินสด และจากปัจจัยภายนอก อาทิ การจราจรติดขัดที่ทางปกติ โดยกทพ.จะต้องประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กทม. ตำรวจจราจร ในการหาวิธีที่จะระบายการจราจรบนถนนด้านล่างได้อย่างไรบ้าง
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ปัจจุบันกทพ.มีถนนทั้งหมด 7 เส้นทางหลัก และมีปริมาณการจราจรอยู่ที่ 1.9 ล้านเที่ยวต่อวัน โดยสามารถแบ่งได้เป็น 58% ชำระค่าผ่านทางด้วยเงินสด ส่วนอีก 42% จ่ายด้วยระบบอัตโนมัติผ่านบัตรอีซี่พาสหรือเอ็มพาส โดยจากข้อมูลพบว่า ช่องจ่ายเงินสด 1 นาที รถสามารถผ่านด่านได้ 6-7 คันต่อช่อง หากคิดเป็นรายชั่วโมงจะมีรถผ่านด่านได้ 350-420 คันต่อช่อง ส่วนช่องจ่ายเงินอัตโนมัติ 1 นาที รถผ่านด่านได้ประมาณ 13 -20 คันต่อช่อง หากคิดเป็นรายชั่วโมงจะมีรถผ่านด่านได้ 800 – 1,200 คันต่อช่อง
“นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม ยังมีแผนที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เข้ามาปรับใช้ในการเก็บค่าผ่านทางแทนในอนาคต โดยจะปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบกล้องตรวจจับเลขทะเบียน แล้วทำการตัดเงินจากบัตรทันที ซึ่งขณะนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษากระบวนการนำมาใช้งานต่างๆ เนื่องจากมีตัวอย่างอยู่แล้วในต่างประเทศ ซึ่งหากนำเอไอเข้ามาใช้งาน ก็จะช่วยในเรื่องการตรวจจับรถที่ถูกโจรกรรม และการก่ออาชญากรรมต่างๆ ได้ด้วย โดยให้ระยะเวลาในการดำเนินการ 1 ปีต่อจากนี้”นายศักดิ์สยามกล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
