นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบาย การดำเนินงานทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บริเวณแขวงทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 พร้อมตรวจการแก้ไขปัญหาการจราจรแออัดบริเวณหน้าด่านทับช้างว่า ขณะนี้การชำระค่าผ่านทางผ่านช่องทางอัตโนมัติ บัตรเอ็มพาส ยังไม่ได้รับความนิยมจากประชาชนมากนัก จึงต้องหามาตรการจูงใจให้ประชาชนหันมาชำระค่าผ่านทางผ่านช่องทางดังกล่าวมากขึ้น โดยการลดอัตราค่าผ่านทาง 10% จากอัตราค่าบริการเดิมของแต่ละด่าน โดยจะมีการหารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาให้เร็วที่สุด
“จากการสำรวจพบว่าการชำระเงินผ่านช่องทางอัตโนมัติไม่ได้มีปัญหา ไม้กั้นหน้าด่านยกขึ้นได้ทันเวลา แต่ติดปัญหาตรงที่ประชาชนไม่ค่อยนิยมใช้มากนัก ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่กว่า 73% นิยมใช้บริการผ่านช่องทางเงินสด และมีแค่ 27% ที่ชำระผ่านช่องอัตโนมัติหรือบัตรเอ็มพาส ทำให้ต้องหามาตรการจูงใจให้ประชาชนหันจ่ายเงินผ่านบัตรเอ็มพาสมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมไว้แล้ว เป็นการลดค่าผ่านทางให้ 10% จากค่าผ่านทางเดิมของแต่ละด่าน และให้หารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาให้เร็วที่สุด เพราะถ้าทำได้เร็วก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชน”นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในส่วนของทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือ มอเตอร์เวย์ มีความคล้ายคลึงกับด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษอโศก แต่แตกต่างกันในส่วนของกายภาพ เนื่องจากมีรถบรรทุกใช้บริการมากกว่า จึงได้มอบหมายให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความแออัดในลักษณะเช่นเดียวกันกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยต้องทดสอบในห้องปฏิบัติการ เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลอีกครั้ง รวมถึงต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้อย่างทั่วถึงด้วย โดยกำหนดให้ดำเนินการและสรุปผลให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุด
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า สำหรับกรณีปัญหาการบุกรุกพื้นที่ก่อสร้างของโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ (Central Village) ภายในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยขณะนี้ได้สั่งการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในแง่ของข้อกฎหมายให้ครบถ้วนในการดำเนินการ ซึ่งจะประชุมร่วมกับทอท.ในสัปดาห์หน้า เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงให้ชัดเจนมากขึ้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในส่วนของความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทค่าโง่ทางด่วน ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในวันที่ 26สิงหาคม นี้ ทางคณะกรรมการจะประชุมสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาค่าโง่ทางด่วน หลังจากที่มอบหมายให้ไปศึกษารายละเอียดการดำเนินโครงการ เพื่อสรุปแนวทางเลือกเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 โดยมีทางเลือกที่อาจจะเป็นการ ต่อขยายอายุสัมปทานทางด่วน 3 เส้นทางออกไปอีก 30ปี หรืออาจจะเป็นแนวทางอื่นที่เหมาะสม ซึ่งต้องรอคณะกรรมการสรุปอีกครั้ง
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
