ยอด‘รถยนต์ไฟฟ้า’ครึ่งปีพุ่ง75% เอกชนจี้รบ.เอาจริง-‘บิ๊กตู่’หัวโต๊ะ

นายยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) เปิดเผยว่า สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเสนอเเนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนเเปลงอย่างเห็นได้ชัด จากข้อมูลของกรมขนส่งทางบก ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 สถิติการจดทะเบียนใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้า เเบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เเละไฮบริด (HEV) ในครึ่งปีเเรกปี 2562 มีจำนวนมากถึง 15,366 คัน คิดเป็นกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ของยอดจดทะเบียนปี 2561 ทั้งปีที่มีจำนวนทั้งสิ้น 20,344 คัน ในส่วนของการจดทะเบียนใหม่ประเภทยานยนต์เเบบเเบตเตอรี่ (BEV) ในครึ่งปีเเรกปีนี้ มีจำนวน 420 คัน สูงกว่ายอดจดทะเบียนใหม่ของปี 2561 ทั้งปีที่มีอยู่ราว 325 คัน เเละมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะประมาณ 340 เเห่งทั่วประเทศ

นายยศพงษ์กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าตัวเลขการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าในครึ่งปีเเรกปีนี้ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเเละมีเเนวโน้มการจดทะเบียนจะมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเล็งเห็นถึงสถานการณ์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันเเละอนาคต จึงได้ร่างข้อเสนอเเนวทางการส่งเสริม ยานยนต์ไฟฟ้าประกอบไปด้วย 8 ข้อหลักมุ่งหวังให้ภาครัฐนำข้อเสนอเหล่านี้มาปรับใช้ดำเนินนโยบายบริหารประเทศ ข้อเสนอเเนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย 8 ข้อหลัก ได้เเก่

1.การจัดทำเเผนที่นำทางเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าเเบบบูรณาการ (EV Roadmap) อย่างเป็นรูปธรรมทางสมาคมเน้นว่าต้องมีการกำหนดเป้าหมายของจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าเเละสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างเหมาะสม พร้อมสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศตลอดห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายโดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อการบูรณาการที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

2.สมาคมเเนะให้รัฐพิจารณาปรับปรุงข้อกฎหมายต่างๆ อาทิ ให้รถสามล้อไฟฟ้าเเละรถรับจ้างไฟฟ้าสามารถจดทะเบียนได้อย่างเสรี รวมไปถึงการส่งเสริมการใช้รถสามล้อไฟฟ้าในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อีกทั้งทางสมาคมยังเสนอให้มีการเเยกการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าระหว่างประเภทปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEV) เเละไฮบริด (HEV)

Advertisement

3.ภาครัฐควรออกมาตรการดังต่อไปนี้

3.1 ส่งเสริมให้ประชาชนซื้อยานยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาเหมาะสม เช่น การลดภาษีส่วนบุคคลสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

3.2 เพิ่มแรงจูงใจสำหรับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า อาทิ การออกมาตรการเพิ่มหัวจ่ายประจุไฟฟ้าตามที่จอดสาธารณะเเละเพิ่มสิทธิในการวิ่งรถยนต์ในช่องทางพิเศษ

3.3 หน่วยงานรัฐควรเป็นผู้นำด้านการใช้รถยนต์ไฟฟ้าก่อน ด้วยการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเเบบเเบตเตอรี่ตามมติ ครม.

3.4 ขยายการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในรถโดยสารสาธารณะ ได้เเก่ ขสมก. รถตุ๊กตุ๊ก รถเเท็กซี่ ควรเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด

3.5 สนับสนุนให้มีการเเยกประเภทป้ายทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเเบบเฉพาะ โดยการใช้สีเเละสัญลักษณ์บนป้ายทะเบียนที่สามารถมองเห็นเเละเเยกเเยะได้ สำหรับป้ายที่เป็นประเภทไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ (BEV) เเละประเภทปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพื่อสร้างการรับรู้ของประชาชน เเละการมีส่วนร่วมของผู้ขับขี่ในการช่วยลดมลภาวะเเละรักษาสิ่งเเวดล้อม

4.ควรส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในรูปเเบบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเเละรถสามล้อไฟฟ้า

5.ส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเเละการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ควรจัดให้มีการสนับสนุนการสร้างงานวิจัยเเละพัฒนาเพื่อยกระดับผู้ประกอบการ เเละการพัฒนาเเพลตฟอร์มเเบบเปิดสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Open Platform) เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเเพลตฟอร์มมาต่อยอดได้

6.จัดทำมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ควรออกมาตรฐานยานยนต์ครอบคลุม รวมไปถึงการจัดให้มีหน่วยงานทดสอบเเละรับรองมาตรฐานของยานยนต์ไฟฟ้าเเละเเบตเตอรี่ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพเเล้ว โดยใช้เเนวทางตามมาตรฐานสากล

7.ควรเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น การสนับสนุนให้มีสถานีอัดประจุไฟฟ้าเเบบควิก ชาร์จ ตามสถานที่ต่างๆ 8.ส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า เช่น ให้มีการอบรมเเละการจัดทำหลักสูตรวิชาชีพในสถาบันการศึกษา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image