‘พิพัฒน์’อัดงบกว่า 120 ล้านบาท ใช้มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวโตตามเป้า

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯมีงบประมาณในการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวกว่า 120 ล้านบาท ไม่รวมกับมาตรการแจก 1,000 บาท ให้ประชาชนออกเดินทางเที่ยวในประเทศ เพราะเป็นมาตรการของกระทรวงการคลัง โดยงบในส่วนของกระทรวงฯเองจะบริหารจัดการให้เหมาะสม ในการแบ่งใช้กับ 3 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศที่กำลังจะมีผลใช้ได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้ได้รับการอนุมัติแล้ว 1 โครงการคือ มาตรการ 100 บาทเที่ยวทั่วไทย ใช้ได้กับทั้งอาหาร ที่พักและการเดินทาง โดยมีกำหนดใช้ในทุกวันที่ 9 เดือน 9 วันที่ 10 เดือน 10 วันที่ 11 เดือน 11 และวันที่ 12 เดือน 12 ซึ่งจะมาจัดในรูปแบบของการสุ่มผู้โชคดีจำนวน 10,000 รายต่อวันที่ใช้มาตรการดังกล่าว อีก 1 มาตรการเป็นการให้ประชาชนโหลดเงินไว้ในแอพพลิเคชั่นที่สร้างขึ้น และเมื่อมีการใช้จ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็จะได้รับเงินคืน 15% ของยอดที่ใช้จ่าย ซึ่งรัฐบาลจะทำการโอนเงินคืนย้อนหลังให้ และมาตรการสุดท้ายเป็นการกระตุ้นให้ไทยเที่ยวไทยในนอกวันหยุด อาทิ ออกเที่ยวในช่วงกลางสัปดาห์แทนวันหยุดทุดสัปดาห์ ซึ่งจะเป็นมาตรการลด แลก แจก แถม เหมือนกับอีก 2 มาตรการ แต่รายละเอียดยังต้องขอสรุปอีกครั้งจึงจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจครั้งต่อไป กระทรวงฯยังไม่มีมาตรการที่เตรียมจะเสนอเพิ่มเติม แต่ยืนยันที่จะดันมาตรการฟรีวีซ่าจีนและอินเดียออกมาให้ได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาเพิ่มเติม แต่ถึงแม้ท้ายที่สุดแล้วมาตรการฟรีวีซ่าทั้ง 2 ตลาดหลักจะไม่สามารถออกมาได้ ก็เชื่อว่าภาคท่องเที่ยวปีนี้ทั้งปี รายได้จะโตไม่ต่ำกว่า 7-8% แน่นอน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินไว้ที่ 9.5% แต่ก็จะพยายามดันให้เต็มที่ พร้อมทั้งยังมั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 40 ล้านคน สร้างรายได้ 3.37 ล้านล้านบาท ซึ่งภาครัฐจะพยายามอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในส่วนของไทยเที่ยวไทยมากขึ้น เพื่อให้สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

“รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการจัดงานนิทรรศการทางธุรกิจที่โดดเด่นของทวีปเอเชีย พร้อมตั้งเป้ารักษาอันดับ 1 ของอาเซียนและเป็นอันดับ 5 ในอันดับสูงสุดของภูมิเอเชียด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจและการประชุม (ไมซ์) โดยพร้อมที่จะสานต่อนโยบายประเทศไทย 4.0  มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสธุรกิจใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงอยากฝากถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า ขณะนี้ประเทศไทยกลับเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว จึงอยากขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศแถบภูมิภาคตะวันตก ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่คุณภาพแต่มีการหยุดมาเที่ยวไทยกว่า 5 ปี ให้กลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้งได้แล้ว”นายพิพัฒน์กล่าว

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image