‘โพดุล’ ถล่มตรัง พ่อเมืองแจ้งชายทะเลงดเดินเรือ ระวัง!น้ำป่าไหลหลาก

พิษพายุ “โพดุล” ถล่มตรัง ผู้ว่าฯร่อนหนังสือประกาศเตือนเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะบริเวณชายทะเลงดเดินเรือ ส่วนของน้ำตกแหล่งท่องเที่ยวแจ้งไปยังอุทยานฯเฝ้าระวัง หวั่นน้ำป่าไหลหลาก

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม จังหวัดตรังได้รับผลกระทบจากมรสุม “โพดุล” ส่งผลให้เกิดภาวะฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ท้องฟ้ามืดครื้มทะเลมีคลื่นลมแรง ทำให้ประชาชนต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกลชิด

ล่าสุด นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้ออกประกาศเตือนว่า ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่องมรสุมเริ่มที่จะเข้าประเทศไทยโดยเฉพาะมรสุมโพดุล ที่จะเข้าทางอ่าวตังเกี๋ยและเวียดนามทางตอนบนของประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบจากวงกว้างของมรสุมลูกนี้ที่มีการเคลื่อนตัวของอากาศ ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งมาทางจังหวัดว่า ได้แจ้งเตือนในเรื่องของอุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่สูง ก็ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังพื้นที่ต่างๆ และบริเวณชายทะเลซึ่งขณะนี้มีคลื่นลมแรง ยังไม่ถึงขั้นตอนให้งดเดินเรือแต่ขอแจ้งเตือนให้ระวังก่อน

“ ในส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องวาตภัย อย่างเช่นที่ย่านตาขาว ได้รับผลกระทบวาตภัยแล้ว และอีกที่ อ.รัษฎา อ.ห้วยยอด ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ริมเชิงเขา รวมทั้งขณะนี้ก็ได้รับการแจ้งเตือนในเรื่องของอุทกภัย ถ้าหากมีฝนตกสะสมในบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ต่ำ ซึ่งในคราวที่แล้วมี อ.สิเกา อ.กันตัง และ อ.ห้วยยอด ก็มีบางส่วนที่น้ำท่วมขังอาจจะระบายไม่ทันก็ได้แจ้งไปยังนายอำเภอเข้าตรวจสอบในพื้นที่เสี่ยงภัย หลังจากนี้อาจจะต้องดูไปสักระยะเนื่องจากว่าลมมรสุมเพิ่งจะเคลื่อนตัวไปยังอ่าวตังเกี๋ยเวียดนามเข้าทางตอนบนของประเทศไทยถ้ากระทบคงต้องดูเป็นพิเศษ จึงต้องขอแจ้งเตือนเบื้องต้นไว้ก่อน” นายลือชัยกล่าว

Advertisement

นายลือชัยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนของน้ำตกแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง ได้แจ้งไปยังอุทยานฯทุกครั้งที่มีฝนตกเยอะ จะต้องเฝ้าระวัง เพราะเราเคยมีประสบการณ์ที่น้ำตกกะช่องมาแล้วจึงต้องดูเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้ให้ทุกอำเภอแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวได้รับทราบเกี่ยวกับอันตรายที่จะเกิดจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรงดังกล่าว พร้อมสั่งการให้หน่วยงานเจ้าท่า ประมง และตำรวจน้ำ ออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือทุกประเภท ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และมีอุปกรณ์กู้ชีพให้เพียงพอ และให้ถือปฏิบัติอย่างเข้มงวด ในการตรวจสภาพความพร้อมก่อนออกเรือ และขอให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และให้หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือ เรือ กู้ชีพกู้ภัยให้มีความพร้อมตลอด 24 ชม. และเตรียมพร้อมจัดตั้งศูนย์อพยพพักพิงชั่วคราว ในการรองรับประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image