โขลงช้างป่าห้วยขาแข้งหนีความแห้งแล้งบุกเหยียบย่ำทำลายพืชไร่กว่า 200 ไร่

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงคืนวานนี้ ที่ผ่านมา นายเฉลิม จั่นมา อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190/6 หมู่ที่ 9 บ้านบึงเจริญ ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยชาวบ้านนับสิบคนที่ทำไร่ข้าวโพดภายในอ่างเก็บน้ำทับเสลาบริเวณด้านเหนืออ่าง ที่ได้รับอนุญาตจากโครงการบำรุงรักษาทับเสลาให้ปลูกพืชไร่ เนื่องจากปีนี้เกิดความแห้งแล้งน้ำแห้ง และไม่ให้พื้นที่เสียประโยชน์ นั่งรถไถทำการออกลาดตระเวนเพื่อผลักดันช้างป่าห้วยขาแข้งให้เข้าป่าธรรมชาติ เพื่อไม่ให้ลงมาบุกมาทำลายพืชไร่ให้ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น โดยพบว่าช้างป่านั้นจะบุกเข้ามาทำลายกินพืชผลในไร่ในช่วงเวลากลางคืน

นายเฉลิม จั่นมา อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นชาวไร่รายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า ตลอดเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่าน มีโขลงช้างป่าจำนวนเกือบ 10 เชือก ที่หนีความแห้งแล้งพากันลงมาจากป่าลึกบุกมาเหยียบย่ำทำลายกัดกินพืชไร่ ทั้งข้าวโพด ไร่อ้อยของตนเองและชาวบ้านในพื้นที่เดียวกันที่ปลูกไว้ในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ชาวบ้านจำนวนหลายครอบครัวปลูกไว้กว่า 500 ไร่ และอีกเพียง 1 สัปดาห์ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตขายได้แล้ว และยังพบว่ามีพื้นที่ได้รับความความเสียหายไปแล้วกว่า 200 ไร่ ทำให้สูญเงินไปหลายแสนบาท โดยในส่วนของตนเองปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จำนวน 32 ไร่ ลงทุนไป 4 – 5 หมื่นบาท ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ทำให้เงินลงทุนกู้ยืมมาต้องสูญเงินไปทั้งหมดและต้องเป็นหนี้เป็นสินเพิ่มขึ้นอีก

สำหรับการออกลาดตระเวนในช่วงเวลากลางคืนที่ผ่านมาเพื่อผักดันช้างให้เข้าป่านั้นพบว่า ในช่วงการลาดตระเวน พบว่าช้างยังไม่ยอมลงมาให้เห็น แต่เมื่อชาวบ้านหยุดการลาดตระเวนแล้ว และคาดว่าจะลงมาบุกทำลายเพิ่มขึ้นอีก เพราะจากการออกมาตรวจสอบในช่วงเช้ามืดเป็นต้นไปยังพบว่า มีการบุกทำลายของช้างป่าเพิ่มขึ้นอีก จนชาวบ้านไม่สามารถที่จะขับไล่ไม่ให้ช้างป่าบุกมาทำลายได้อีก จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่มีความเชี่ยวชาญและมีความคุ้นเคยกับช้างป่าเข้ามาช่วยเหลือผลักดันช้างป่าไม่ให้บุกมาทำลายพืชไร่ให้ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image