สสจ.สิงห์บุรี ย้ำเตือน ปชช.อย่าหลงเชื่อ ‘ดื่มปัสสาวะรักษาโรคได้’ แนะร้องเรียน

เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายแพทย์วิวัฒ คำเพ็ญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า จากกรณีที่มีชาวบ้าน ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ดื่มปัสสาวะ พร้อมนำมาล้างหน้า ล้างตาเพราะเชื่อว่าสามารถป้องกันรักษาโรคได้ ขณะเดียวกันก็พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายรายที่อ้างว่าเป็นครู เป็นแพทย์ ทันตแพทย์ นักวิชาการสาธารณสุข โพสต์ข้อความระบุว่าดื่มกินปัสสาวะเพื่อรักษาโรค และผ่านการอบรมมาจากสำนักหนึ่ง ในจังหวัดมุกดาหาร โดยเมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ขอย้ำว่าปัสสาวะเป็นของเสียในรูปแบบเหลวที่ร่างกายไม่ต้องการ ประกอบไปด้วยสารยูเรีย ถึงแม้ไม่ได้มีพิษรุนแรง แต่ก็สามารถสร้างความระคายเคืองให้แก่ผิวหนังและดวงตาได้ การนำปัสสาวะมาอ้างใช้รักษาโรคต่างๆ กันเอง โดยที่ไม่รู้สรรพคุณ และไม่มีผลการยืนยันจากแพทย์นั้นเป็นสิ่งที่อันตราย อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ไม่ควรที่จะทำตาม

นายแพทย์วิวัฒกล่าวว่า ซึ่งตนเป็นห่วงและอยากให้ทุกคนนั้นระมัดระวังและศึกษาอย่างถี่ถ้วนเสียก่อนที่จะเชื่ออะไรตามกระแส รวมถึง นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวย้ำว่า การใช้ปัสสาวะไม่ใช่มาตรฐานการรักษาโรค ไม่อนุญาตให้มีการนำมารักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการใช้ใน รพ.นั้น ขอให้ช่วยกันชี้เป้าเพื่อจะได้ตรวจสอบอย่างตรงจุด

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ขอย้ำเตือนว่า กรณีมีคนกลุ่มหนึ่งมองว่าการดื่มน้ำปัสสาวะเป็นการแพทย์ดั้งเดิมที่มีแต่โบราณ สามารถบำบัดรักษาโรคได้ จากข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า แม้ว่าภูมิปัญญาการแพทย์โบราณจะพูดถึงศาสตร์การใช้ปัสสาวะบำบัดเอาไว้ แต่ปัจจุบันการแพทย์ก้าวไกลไปมาก เราไม่จำเป็นต้องใช้น้ำปัสสาวะมารักษาโรค และการจะเอาปัสสาวะมาใช้ ต้องเข้าใจก่อนว่าน้ำปัสสาวะก็มีของเสียที่ไตขับออกมา ยิ่งเป็นน้ำปัสสาวะของผู้ป่วย จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงการติดโรคได้ จะมั่นใจได้อย่างไรว่า น้ำปัสสาวะที่รับมาไม่มีเชื้อโรค ทางที่ดีอย่ารับประทานดีที่สุด มีวิธีในการรักษาอื่นๆ อีกมาก

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวต่อว่า และทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ ยังไม่มีการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ และไม่แนะนำให้รักษาโรคด้วยน้ำปัสสาวะบำบัด ไม่ว่าจะดื่ม หยอดตา หรืออะไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ต้องใช้ดุลพินิจ แต่ยืนยันว่ายังไม่ใช่มาตรฐานการรักษา หากผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้ไม่ว่าจะเป็นหมอพื้นบ้าน เป็นแพทย์แผนไทย สามารถร้องเรียน ได้ที่สภาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image