บทนำ : กระดูกของ‘บิลลี่’

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แถลงข่าว เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา ระบุถึงการพบกระดูกของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย ที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จากหลักฐานที่พบ ทั้งถังน้ำมันขนาดใหญ่ เศษเหล็ก และใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบดีเอ็นเอ และสันนิษฐานลักษณะการเสียชีวิต พบว่า นายพอละจี หรือบิลลี่ ถูกสังหารแล้วนำร่างไปเผาในถังน้ำมันเพื่อทำลายและอำพรางหลักฐาน ก่อนโยนทิ้งในบริเวณที่มีน้ำหล่อเลี้่ยงตลอดปี เพื่อป้องกันมิให้เกิดการค้นพบถังที่ใช้ใส่ศพดังกล่าว

นายพอละจีเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิชุมชน ซึ่งขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่รัฐ และเตรียมจะเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ที่บุกรื้อบ้านชาวกะเหรี่ยงกว่า 20 ครอบครัว เมื่อปี 2554 นายพอละจีหายสาบสูญไปเมื่อ 17 เมษายน 2557 ขณะเดินทางออกจากหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพื่อไปอำเภอแก่งกระจาน และถูก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ควบคุมตัวในข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่า 3 ขวด นายชัยวัฒน์ระบุว่าเรียกนายพอละจีมาตักเตือน และปล่อยตัวไป โดยระบุพยานเห็นการปล่อยตัว ต่อมา น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ ได้ร้องต่อศาล จ.เพชรบุรี โดยเชื่อว่าบิลลี่ยังคงถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติควบคุมตัว ต่อมาศาลไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง ภรรยาบิลลี่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน และศาลฎีกาพิพากษายืน ถือว่า คดีถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม ต่อมาดีเอสไอรับคำร้องของ น.ส.พิณนภา และดำเนินการสอบสวน จนพบกระดูกของนายพอละจีดังที่แถลงข่าว พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เผยว่า คดีของนายพอละจี ถือเป็นคดีฆาตกรรม ส่วนฆาตกรรมด้วยวิธีใด ต้องสืบสวนต่อไป ทางดีเอสไอมีกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว ไม่ว่าผู้กระทำความผิดเป็นใคร จะต้องดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น การแถลงข่าวของดีเอสไอในครั้งนี้ จุดประกายความหวังให้ประชาชน และผู้ที่ติดตามคดีนี้ ว่า กระดูกของนายพอละจี จะนำทางไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ตามกฎหมายของบ้านเมือง หลังจากที่ดูเหมือนไร้ความหวังมาถึง 5 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image