เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงนี้ระดับน้ำโขงลดลงต่อเนื่องวันละประมาณ 10 -20 เซนติเมตร หลังมีฝนหยุดตกในช่วง 3 -4 วันที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำโขง อยู่ที่ประมาณ 7 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตล้นตลิ่งที่ประมาณ 6 เมตร คือระดับที่ 13 เมตร ส่งผลดีต่อการระบายลำน้ำสาขา ประกอบด้วย ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ลำน้ำก่ำ และลำน้ำบัง ที่มีปริมาณเต็มความจุ สามารถระบายได้รวดเร็ว ลดปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะลำน้ำก่ำที่ รับน้ำจากหนองหาร จ.สกลนคร ที่มีการใช้เรือผลักดันน้ำ ของกองทัพเรือ ระบายน้ำลงสู่น้ำก่ำ ก่อนไหลลงน้ำโขง ที่ อ.ธาตุพนม ในช่วง 2 -3 วันที่ผ่านมา ทำให้มีมวลน้ำจากหนองหาร ไหลมาสมทบลำน้ำก่ำ มีปริมาณสูงล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบทำให้น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร ข้าวนาปี ในพื้นที่ อ.วังยาง อ.นาแก และ อ.เรณูนคร มีพื้นที่ได้รับผลกระทบกว่า 10,000 ไร่
แต่ล่าสุดหลังระดับน้ำโขงลดลง บวกกับมีการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำเพิ่ม ในพื้นที่ลำน้ำก่ำ ช่วง อ.นาแก จำนวน 10 ลำ ทำให้ลำน้ำก่ำลดลงต่อเนื่อง วันละ 10-20 เซนติเมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ อยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์ของความจุ รับน้ำจากหนองหาร วันละประมาณ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายลงน้ำโขงวันละประมาณ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หากไม่มีพายุฝนตกต่อเนื่อง จะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ทางชลประทานจังหวัดนครพนม ยังคงเปิดการระบายน้ำ ในประตูระบายน้ำตลอดลำน้ำก่ำทั้ง 7 จุด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง เตรียมพร้อมรับมือพายุฝนตกลงมาซ้ำอีก
ขณะเดียวกันในปีนี้หลังระดับน้ำโขงต่ำในช่วงฤดูฝน ซึ่งถือว่ามีปริมาณต่ำสุดในรอบ 10 ปี จากปีที่ผ่านมา ในช่วงเดือนเดียวกันระดับน้ำโขงสูงประมาณ 11 -12 เมตร แต่ปีนี้เหลือแค่ประมาณ 7 เมตร ส่งผลดีต่อเกษตรกรริมโขง ในพื้นที่ อ.เมือง อ.ธาตุพนม ซึ่งมีอาชีพทำการเกษตร ปลูกพืชผักสวนครัว ส่งขายทั่วภาคอีสาน มีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 1,000 ไร่ ทำให้ปีนี้สามารถทำการเกษตรริมโขงได้ตลอดทั้งปี จากปกติจะสามารถทำการเกษตรได้ เฉพาะช่วงฤดูแล้ง ส่งผลดีต่อผลผลิตการเกษตร ส่งขายได้ถึงช่วงออกพรรษาถึงปีใหม่ และคาดว่าจะมีการปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากหลายจังหวัดในพื้นที่อีสาน ถูกน้ำท่วม ส่งผลดีต่อเกษตรกรในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น
