“บลูเวล แอสเซท” ตั้งกองทรัสต์ เตรียมระดมทุนกว่า 4,420 ลบ. เดินหน้าลงทุน 3 โรงแรมทำเงิน

นายรุ่งยศ จันทภาษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวล แอสเซท จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระเพื่อการลงทุน เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้มีการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนกองแรก โดยอยู่ระหว่างการจัดตั้งเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุน ภายใต้ชื่อทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าบลูเวล ฮอสพิทอลลิตี้ โดยคาดว่าจะสามารถเสนอขายให้กับนักลงทุนครั้งแรกได้ในช่วงกลางเดือน ตุลาคมนี้ ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปลงทุนในกรรมสิทธิ์ และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม 3 แห่ง ในจังหวัด ภูเก็ต เกาะสมุย และเขาใหญ่ เนื่องจากได้คัดเลือกแล้วว่าเป็นเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติด้วย

“จุดเด่นของกองทรัสต์ที่บริษัทตั้งขึ้นคือ สามารถกระจายการลงทุนในโรงแรมทั้ง 3 แห่ง รวมถึงสามารถเพิ่มโรงแรมที่จะเข้าไปลงทุนได้อีก เนื่องจากมีการกระจายความเสี่ยง ในโรงแรมที่มีฐานลูกค้าแตกต่างกัน และมีแหล่งรายได้มาจากหลายส่วน รวมถึงมีความคัดเลือกแล้วจากโรงแรมกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าโรงแรมที่จะนำเงินเข้าไประดมทุนนั้นมีศักยภาพมากพอ ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของรายได้ใน และสร้างความสมดุลย์ให้กับกองทรัสต์ใหม่นี้ได้”

นายรุ่งยศ กล่าวว่า บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนโรงแรม ที่จะเข้าไปลงทุนในปี 2563 อีก 5-6 แห่ง ส่วนภายในปีนี้จะเข้าลงทุนเพิ่มในโรงแรมอีก 6 แห่งเพิ่มเติม เพราะมีโรงแรมที่พิจารณาอยู่ทั้งหมด 10 แห่ง รวมถึงจะเพิ่มการลงทุนในโรงแรมตามพื้นที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว ได้แก่ พัทยา กรุงเทพ เชียงใหม่ กระบี่ โดยตั้งเป้าขยายขนาดมูลค่าสินทรัพย์ของกองทรัสต์ เพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านบาทภายในปี 2564 ซึ่งเชื่อว่าหากเข้าไปลงทุนในโรงแรมครบทั้ง 10 แห่งแล้ว จะทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของกองทรัสต์เพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาทในปี 2563 ได้

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า วงเงินลงทุนครั้งแรกในกองทรัสต์นี้ จะมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 4,420 ล้านบาท โดยจะมาจากการระดมทุนเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวนประมาณ 3,850 ล้านบาท และกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินไม่เกิน 771.5 ล้านบาท โดยกองทรัสต์ประมาณการอัตราผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในปีแรกอยู่ที่ประมาณ 8.50% ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งกองทรัสต์นั้น ปัจจุบันได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกและแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (ไฟลิ่ง) เป็นที่เรียบร้อย โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต. ได้พิจารณาและอนุมัติเบื้องต้นแล้ว เมื่อวันที่ 10 กันยาน ที่ผ่านมา

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image