พธ.ชี้ภาคบริการสร้างรายได้สูง7ล้านล้านบาท จึงจัดแรลลี่ดึงธุรกิจดูอนาคตอีอีซี

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(พธ.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 กันยายน กรมจัดพิธีปล่อยขบวนรถแรลลี่ ภายใต้กิจกรรม “EEC Business Driving 2019” ช่วงวันที่ 12-13 กันยายน จุดเริ่มต้นที่โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย โดยเป็นหนึ่งในกิจกรรมนำร่องพาผู้ประกอบธุรกิจ ประเภทธุรกิจบริการที่ผ่านการอบรมจากกรมลงพื้นที่ในจังหวัดที่เป็นเส้นทางของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เพื่อสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจ โดยอีอีซีเป็นแผนภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล มีประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาเซียน เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน มีประชากรกว่า 3.5 พันล้านคน และจีดีพีคิดเป็น 32% ของจีดีพีโลก ประเทศไทยนับเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเศรษฐกิจในทวีปเอเชีย รวมถึงมีที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จึงเป็นโอกาสอันดีของธุรกิจไทยที่จะเชื่อมธุรกิจกับประเทศในเอเชียและโลก

นายวุฒิไกร กล่าวว่า ในระยะแรกของการพัฒนาโครงการอีอีซีจะเป็นการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมนำร่องในวันนี้ที่กรมฯ จะพานักธุรกิจจำนวน 50 ราย แบ่งเป็น 13 ทีม รถยนต์ 30 คัน เดินทางไปพบกับธุรกิจบริการที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมีกติกาคือผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องขับรถเพื่อไปถ่ายภาพ และ Check in ตามสถานที่ที่กำหนด ร้านอาหาร Thai SELECTสปา สถานดูแลผู้สูงอายุในการส่งเสริมของกรมฯ เผยแพร่ผ่าน Facebook ของตนเอง เพื่อรับการกด Like&Share จากผู้ติดตาม ทีมไหนมียอดดังกล่าวสูงที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะเลิศในกิจกรรม
ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นและปลายทางที่เดียวกันคือ โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย ถึงโรงแรมบางแสนเฮอริเทจ จังหวัดชลบุรี แบ่งเป็น 2 เส้นทาง เส้นทางละ 4 แห่ง ดังนี้ เส้นทางที่ 1 ร้านอาหารทับขวัญรีสอร์ทแอนด์สปา, ลิฟวิ่งเวล (สถานดูแลผู้สูงอายุ), ร้านอาหารบลูอีเลเฟ่นท์ กรุงเทพฯ, ร้านอาหารบ้านสุริยาศัย และ เซเว่นสปาลักซูรี่พัทยา สำหรับเส้นทางที่ 2 คือ ร้านอาหารสวนทิพย์, เอบีซี โฮมแคร์ (สถานดูแลผู้สูงอายุ) และร้านอาหารเสน่ห์จันทร์ ร้านอาหารโอชาไทย และร้านสปา ณ สปาพัทยา” ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากแกร็บ, ดีแลนด์กรุ๊ป, ยูโรเดคคอร์, แกรนด์คอฟฟี่บอย, ภัทรลิสซิ่ง เมืองไทยประกันภัย และเมืองไทยประกันชีวิต”

“ กิจกรรมนี้โอกาสให้ช่วยกันเสนอแนวทางการพัฒนาธุรกิจบริการ เพื่อผลักดันให้เป็นยุทธศาสตร์ของภาคบริการต่อไปถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ของกรมในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจบริการที่เข้าร่วมกิจกรรมแรลลี่กับธุรกิจที่อยู่ในพื้นที่อีอีซีเข้าด้วยกัน ส่งผลให้เกิดการต่อยอดธุรกิจบริการให้มีพันธมิตรเพิ่มขึ้น เกิดเครือข่ายที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังจะกลายเป็นทำเลทองในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมถึงทำให้ภาครัฐมองเห็นทิศทางในการพัฒนาธุรกิจบริการและจัดทำเป็น Road Map สำหรับกำหนดยุทธศาสตร์ได้อย่างยั่งยืน มากไปกว่านั้น ยังช่วยให้ธุรกิจบริการภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถผลักดันธุรกิจของตนเองให้เติบโตได้ในอนาคต ”นายวุฒิไกร กล่าว

สำหรับธุรกิจบริการเป็นธุรกิจสำคัญในลำดับต้นๆของประเทศในปี 2561 มีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนของจีดีพีมากถึง 43.5% ของจีดีพีของไทย หรือมูลค่า 7.1 ล้านล้านบาท สร้างงานให้กับคนไทยมากกว่า 6 ล้านคน หรือสัดส่วน 36.19% ของการจ้างงานไทย และมีจำนวนธุรกิจบริการจำนวนถึง 1.2 ล้านราย หรือ 40% ของจำนวนธุรกิจไทยทั้งหมด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image