เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวสัมภาษณ์ที่จังหวัดร้อยเอ็ดว่า วันนี้ได้นำคณะจากกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสมาคมส่งออกข้าวไทย ร่วมกิจกรรมพบตัวแทนเกษตรกร และเกษตรกรชาวนาจาก 5 จังหวัดได้แก่ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ยโสธร และมหาสารคาม เพื่อชี้แจงแนวปฏิบัติให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวถึงนโยบายประกันรายได้ซึ่งผ่านการประชุม ครม.แล้ว
นับจากนี้เข้าสู่ช่วยการปฏิบัติ ขณะนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมขึ้นทะเบียนกับกรมการส่งเสริมการเกษตร และเปิดบัญชีกับ ธ.ก.ส. จำนวน 4.1 ล้านครอบครัว ซึ่งขั้นตอนกระบวนการถัดจากนี้คือ นโยบายประกันรายได้จะทำให้ชาวนาไทยมีรายได้ 2 ทางคือ รายได้จากการขายข้าวจากราคาท้องตลาด ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิด และคุณภาพข้าว รายได้ส่วนที่ 2 ได้จากส่วนต่างตามนโยบายของรัฐบาล
สำหรับการโอนเงินส่วนต่าง จะเริ่มโอนเงินงวดแรกในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยจะโอนเข้าบัญชีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้และแจ้งรอบเก็บเกี่ยวไว้ ขอย้ำว่า ชาวนาไทยที่ขึ้นทะเบียนไว้และปลูกข้าวจริง ทั้งผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีสิทธิที่จะได้รับเงินส่วนต่างนี้แน่นอน และนโยบายประกันรายได้จะดำเนินการคตลอดอายุรัฐบาลชุดนี้
นายจุรินทร์ยังกล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการยกระดับราคาข้าวโดยกระทรวงพาณิชย์นั้น มีมาตรการเสริมกรณีบางช่วงมีข้าวออกมาสู่ตลาดปริมาณมาก เราจะใช้มาตรการเสริมโดยมีกระบวนการดูดซับผลผลิตมาเก็บไว้เพื่อไม่ให้ราคาข้าวตกจนส่งผลกระทบถึงชาวนา และนโยบายประกันรายได้นี้จะช่วยเกษตรกรครบทุกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำคือชาวนา กลางน้ำคือโรงสี แปรรูป ปลายน้ำคือผู้ส่งออก
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวตอนท้ายว่า วันนี้มีกิจกรรมลงพื้นที่เยี่ยมพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.ร้อยเอ็ด ทั้งวัน แต่สำหรับวันที่ 15 กันยายน จะนำคณะลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำนาจเจริญและอุบลราชธานีต่อไป