เจ้าของภาพพระพุทธรูปอุลตร้าแมน สรุปเงินประมูลแบ่งเป็นทุนการศึกษาเด็กวาด-ซื้อเครื่องช่วยหายใจให้ รพ.

เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายปกรณ์ พรชีวางกูร ผู้ซื้อภาพผลงานศิลปะ ภาพพระพุทธรูปอุลตร้าแมน ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “เอาล่ะครับ เรามาสรุปทุกอย่างกันดีกว่า หลังจากที่ได้คุยกับอาจารย์แอ๊ะแล้วเราทั้ง 2 ก็เห็นตรงกันว่า 2 ภาพที่เปิดประมูล เราได้เงินมาทั้งหมด 2.6 ล้านบาท เราจะแบ่งเป็นทุนการศึกษาเพื่อปลอบใจเด็กที่วาด 10% ก็เท่ากับว่าน้องจะได้เงินไป 2.6 แสนบาท เท่ากับจะเหลือเงิน = 2,340,000 บาท เราจะเอาเงินไปซื้อ 1.high flow+เครื่องสำรองไฟ+เซต ราคาประมาณ 250,000 บาท 2.เครื่องช่วยหายใจ mobile ที่มี PEEP  ชื่อว่า “Halminton C1″ ราคาประมาณ 450,000 บาท ทาง รพ.ได้ให้เบอร์โทรเซลส์ขายเครื่องมาด้วย ทาง รพ.ขอมาว่าอยากให้ซื้อกับบริษัทที่ทาง รพ.แนะนำ เพราะเค้ามีสเปกเครื่องตรงตามความต้องการ (ในส่วนนี้ก็ต้องขออนุญาตสั่งซื้อกับเซลส์ตามที่ทาง รพ.แจ้งมานะครับ แล้วทางเราจะพยายามต่อรองราคาให้ต่ำที่สุดให้ได้)

ทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นเครื่องช่วยหายใจเด็ก ทั้งที่ในตอนแรกประกาศออกไปว่าจะเอาเงินไปซื้อเตียง icu เด็ก เหตุผลคือ… คุณหมอยิ่งลักษณ์ หมอเด็ก รพ.ด่านขุนทด แจ้งมาว่า เครื่องช่วยหายใจเด็กสำคัญกว่าเตียง แล้วทาง รพ.ก็ไม่ได้ขาดแคลนเตียง แต่เครื่องชนิดนี้ทาง รพ.ไม่มีเพราะราคาแพงมาก ก็จะได้ไม่มีปัญหา รพ.เห็นว่าอะไรที่จำเป็นมากกว่าก็เอาไปเลยกุยินดี แล้วกุก็เชื่อว่าหากมีการปรับเปลี่ยนของบริจาคจากเตียงเป็นเครื่องช่วยหายใจเด็ก…ชาวเน็ตทุกคนไม่มีปัญหาในส่วนนี้แน่นอน

ขั้นตอนหลังจากนี้คือ…ขอเวลา 2 วัน คือวันที่ 14 และวันที่ 15 ประสานกับทางเซลส์ จะขอให้เซลส์ส่งใบเสนอราคามาให้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าราคาเครื่องเท่าไร จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสในภายหน้า แล้วหลังจากนั้น จะเป็นขั้นตอนของการส่งมอบภาพ ท่านเจ้าของภาพที่ประมูลชนะไปในราคา 2 ล้าน จะไปรับภาพกับอาจารย์แอ๊ะโดยตรง ส่วนท่านที่ชนะประมูลภาพแรก พี่เค้าอยากเจอเด็กคนวาดเป็นการส่วนตัว แต่ตอนนี้ตัวพี่เค้ายังไม่กำหนดวันมา ก็ต้องรอพี่เค้าสะดวกวันไหน แล้วกุจะประสานให้น้องลงมามอบภาพด้วยตัวเอง

วันที่น้องลงมามอบภาพให้กับท่านที่ชนะการประมูล จะโอนเงินให้น้องครึ่งนึง = 1.3 แสนบาท ให้น้องเอากลับไปให้พ่อแม่ได้ชื่นใจ ในขั้นตอนนี้ในท่อนบนที่กล่าวมาทั้งหมด จะต้องจบก่อนวันที่ 19 กันยายนครับ แล้วหลังจากนั้นวันที่ 20 อันนี้นี่ล่ะมีพวกปากหมาแน่ๆ ขายรถไปเมื่อเดือนที่แล้ว แล้วก็จองรถไปตั้งแต่เดือนที่แล้วเรื่องมอบภาพวันที่ 23 จะโอนเงินมัดจำครึ่งนึง ไปมัดจำค่าเครื่องกับทางบริษัทขายเครื่อง แล้วก็จะสั่งให้ทางบริษัท ทำแผ่นเหล็กสีทอง ใส่ชื่อน้องคนวาดภาพ ชื่อพ่อชื่อแม่ของน้องเค้าลงไป บนเครื่องช่วยหายใจเด็กจะมีแต่ชื่อของน้องและชื่อพ่อแม่เท่านั้น

Advertisement

แล้วหลังจากวันนี้จนถึงวันที่ 28 กันยายน จะเป็นช่วงของการระดมขนมนมของกิน เพราะหลังจากจบภารกิจส่งมอบของให้ รพ. เราจะเอาขนมนมเนยไปแจกให้กับโรงเรียนยากจนในละแวก อ.ด่านขุนทดกันต่อ ซึ่งมีกัน 5 โรงเรียน คุณครูที่กำลังประสานแจ้งว่า 5 โรงเรียนมีเด็กรวมกัน 400 คน

วันที่ 29 กันยายน เราจะไปโคราชกันในส่วนของการส่งมอบเครื่องช่วยหายใจเด็กให้กับทาง รพ.ด่านขุนทด จะมีเพียงน้องและพ่อแม่เท่านั้นที่ทำหน้าที่นี้พวกเราทุกคนจะไปยืนดูเพื่อเป็นสักขีพยานเท่านั้น และหลังจากส่งมอบเสร็จจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายคือในพื้นที่ตรงนั้น ใครที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุด จะเป็นผู้ใหญ่บ้านกำนันตำรวจ หรือใครก็ได้ที่สังคมเชื่อถือ จะขอให้ท่านนั้นทำหน้าที่ส่งมอบเงินที่เหลือคือ 1.3 แสนบาท ให้กับน้องและพ่อแม่ หลังจากนั้นจะจ่ายเงินค่าเครื่องที่ยังเหลือทั้งหมดให้กับบริษัทที่ขายเครื่องให้ แล้วเราก็จะยกทัพไปแจกขนมให้ตามโรงเรียนชนบทที่ได้ประสานเอาไว้แต่ไปแล้วอาจจะไม่เจอเด็กๆ นะ เพราะเป็นวันอาทิตย์ เราจะฝากทุกอย่างไว้ให้กับคุณครู ให้ครูไปแจกเด็กเอาเองในวันถัดไป

จบจากทั้งหมดนี้…เงินที่เหลือทั้งหมดจากการโอนให้น้องคนวาดโอนจ่ายค่าเครื่อง จะโอนคืนให้อาจารย์แอ๊ะทั้งหมด ให้อาจารย์เอาไปจัดสรรว่าจะให้เด็กตาบอดที่ไหนบ้าง ให้โรงบาลสงฆ์ที่จังหวัดไหนดี ก็ต้องให้อาจารย์รับไม้ต่อ

Advertisement

ส่วนเราก็กลับมาสับหมูเหมือนเดิม…”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image