TAPAC โชว์กำไรสุทธิงวด 9 เดือน พุ่ง 86.58% ธุรกิจผลิตภัณฑ์พลาสติก-เครื่องสำอางหนุน มั่นใจทั้งปียังโตต่อเนื่องตามเป้าหมาย

นายนารุฮิซะ อาเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน (สิ้นสุด ก.ค.62) ว่ามีกำไรสุทธิ 65.034 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.58% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.85 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,289.24 ล้านบาท ลดลง 15.44% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้เท่ากับ 1,524.61 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการลดลงในส่วนของธุรกิจก่อสร้าง ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์พลาสติกและธุรกิจค้าปลีกมีรายได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่งวดไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิ 23.744 ล้านบาท ลดลง 20.36% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 29.81 ล้านบาท เนื่องจากการบันทึกภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงาน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 455.54 ล้านบาท ลดลง 11.85% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้เท่ากับ 516.78 ล้านบาท โดยเป็นการลดลงในส่วนของธุรกิจก่อสร้าง

“สาเหตุที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนปีนี้ ยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากบริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายสินค้า และให้บริการผลิตภัณฑ์พลาสติก แม่พิมพ์ ธุรกิจค้าปลีก รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศสวีเดน ยังคงเติบโต โดยงวด 9 เดือนมีรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์พลาสติก อยู่ที่ 717.43 ล้านบาท คิดเป็น 52.81% ของรายได้รวม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีรายได้อยู่ที่ 558.63 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำอาง มีรายได้ 82.44 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง และเชื่อแนวโน้มจากนี้ไป บริษัทฯยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้ดีขึ้นหากเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการที่บริษัท ริโก้ ผู้ผลิตอุปกรณ์สำนักงานชื่อดังของญี่ปุ่น มีแผนย้ายฐานการผลิตเครื่องพิมพ์สำหรับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศจีน มารวมกับฐานผลิตในไทย เพื่อเลี่ยงผลกระทบสงครามการค้าส่งผลให้บริษัทฯมีออเดอร์เพิ่มขึ้น”

Advertisement

นางสาวจารุวัลย์ วงศ์เจษฏาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท C4 Global บริษัทในกลุ่มบริษัท ทาพาโก้ กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯเตรียมขยาย small retail สำหรับเฮ้ มินิ (HEJ Mini) ขนาด 10 ตารางเมตร ซึ่งสามารถวางจำหน่ายสินค้าได้ประมาณ 500 ชนิดสินค้า (SKU) ต่อหนึ่งจุดขาย โดยมีแผนต้องการจะขยาย 50 จุดขาย ทั่วประเทศไทย ผ่านเครือข่ายศูนย์การค้าชั้นนำ ทั้งในและต่างประเทศ

“สำหรับธุรกิจเครื่องสำอาง ยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้นจากครึ่งปีแรก แม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่ธุรกิจนี้จะได้รับผลกระทบช้ากว่าธุรกิจอื่น หรือไม่ได้รับผลกระทบเลย อย่างไรก็ตามในช่วง 3-5 ปี ข้างหน้า บริษัทฯตั้งเป้าขยายสาขา และขยาย small retail สำหรับ HEJ Mini และ สินค้าแบรนด์ Secret J ทั่วประเทศ” นางสาวจารุวัลย์กล่าว

นอกจากนี้ มีแผนจะผลักดันให้ เฮ้ สตรีท บิวตี้ เดินหน้าขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV+I ในปี 2563 โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเดินทางไปยังประเทศเวียดนาม กัมพูชา เพื่อหารือกับพันธมิตรศูนย์การค้าชั้นนำ เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศอีกด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image