6สมาคมไลฟ์สไตล์ เล็งเข้าพบ”จุรินทร์” ขอแรงหนุนดันส่งออก วอนอย่าทิ้งจัดแฟร์

แหล่งข่าวจากสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย เปิดเผยว่า สมาพันธ์ที่ประกอบด้วย 6 สมาคม ได้ทำหนังสือขอเข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือสถานการณ์การผลิตและส่งออกทั้ง 6 สมาคม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้จากการส่งออกประมาณ 7 หมื่นล้านบาท รวมถึงแนวทางผลักดันและมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐที่จะทำให้การผลิตและส่งออกสินค้ามีความต่อเนื่อง

“ตอนนี้กลุ่มสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยก็เจอปัญหายอดคำสั่งซื้อและรายได้ส่งออกหดตัวลง ปีนี้ส่งออกมีโอกาสติดลบ ผลกระทบจากค่าบาทแข็งทำให้สินค้าไทยมีความสามารถในแข่งขันด้านราคากับต่างประเทศลดลง แม้แต่ประเทศใกล้เคียง เช่น มาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย ปัจจุบันที่ค่าเงินแข็งทำให้สินค้า 2 ประเทศนี้ขายได้ถูกกว่าไทยแล้ว 30% นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องสงครามการค้ากระทบต่อการค้าโลกและเศรษฐกิจโลกหดตัว ตลาดหลักอย่างสหรัฐ จีน และยุโรป ตัวเลขสั่งซื้อก็ลดลง จึงทำให้ปีนี้ประเมินไม่ได้ว่าตัวเลขจะบวกแค่ไหน่ แต่แนวโน้มมีโอกาสติดลบ “

แหล่งข่าวกล่าว่า ในการหารือจะนำเสนอแนวทางที่ภาคเอกชนได้มีการปรับตัวโดยเฉพาะการปรับจากผู้ผลิตและผู้นำเข้าสินค้าเพื่อผลิตหรือประกอบแล้วส่งออก หรือเป็นตัวแทนขายมากขึ้น พร้อมกับการเสริมการใหม่ๆ เช่น เจาะตลาดนักท่องเที่ยว ตลาดอาหาร ตลาดสัตว์เลี้ยง ตลาดแม่และเด็ก ตลาดค้าชายแดน  ผลักดันผู้ผลิตหน้าใหม่ และเจาะตลาดในประเทศมากขึ้นทดแทนตลาดส่งออกในภาวะเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอนและยังวิกฤต

แหล่งข่าวกล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้จะชี้ให้เห็นว่าแนวทางส่งเสริมของภาครัฐผ่านงานแสดงสินค้าต้องมีการปรับปรุง โดยจะเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ ทบทวนเรื่องยกเลิกการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยในเดือนเมษายน ซึ่งจัดมาต่อเนื่องเกือบ 10ปี และเหลือจัดการแค่งานเดียวในเดือนตุลาคม เนื่องจากความเป็นจริงจัดแสดงเดือนเมษายนจะได้ประโยชน์จากการสั่งซื้อล่วงหน้าเพื่อขายตามเทศกาลส่งท้ายปีต้อนรับปีใหม่ แต่เดือนตุลาคมจะได้ภาพลักษณ์มากกว่าคำสั่งซื้อ ซึ่งจะเป็นการแรงกดดันให้ธุรกิจปิดตัวเพิ่มขึ้นในอนาคตเพราะการค้าลดลง

Advertisement

“ ตอนนี้ธุรกิจกำลังประคองตัวกันเต็มที่ หากแนวทางรัฐกดดันการทำธุรกิจอีก จะทำให้ผู้ประกอบการถอนตัวจากงานแสดงสินค้าของไทยแล้วไปหางานแสดงสินค้าต่างชาติที่จัดในประเทศไทย เริ่มเห็นการจับผู้ผลิตไทยและลูกค้าคนไทยแล้ว อยากดูย้อนหลังไปอุตสาหกรรมของชำร่วยไทยไม่ใช่ขาลง แต่แฝงไปในหลายธุรกิจ อย่างภาคท่องเที่ยว ของที่ระลึกมีสัดส่วนถึง 24% ของรายได้จากการท่องเที่ยว เท่ากับสร้างรายได้ในประเทศเป็นแสนๆล้านบาท  ส่วนสถานการณ์ตลาดของชำร่วยในประเทศพบว่ายังเงียบมาก โดยเฉพาะตลาดซื้อตามฤดูกาลเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ที่เป็นช่วงสั่งซื้อจากองค์กรเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ ยังเงียบมาก “แหล่งข่าว กล่าว

ทั้งนี้ สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย ประกอบด้วย 6 สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออก 1. สมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน 2.สมาคมเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย 3.สมาคมสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ 4.สมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย 5.สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย  6.สมาคมผู้ผลิตและส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image