กสอ.ตั้งเป้าปี 63 พัฒนาเอสเอ็มอีกว่า 6 หมื่นราย สร้างรายได้เพิ่ม 1.8 หมื่นล้านบาท

กสอ.ตั้งเป้าปี 2563 พัฒนาเอสเอ็มอีกว่า 6 หมื่นราย สร้างรายได้เพิ่ม 1.8 หมื่นล้านบาท

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาเอสเอ็มอีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ว่า กสอ.ยังคงเดินหน้าภายใต้นโยบาย “From Local to Global” by Marketing and Innovation โดยเน้นพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต ในกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่กระจายในทุกพื้นที่และกลุ่มที่สำคัญต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยการใช้แนวคิดการส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมผ่านกระบวนการบริหารจัดการธุรกิจ การบริหารจัดการทรัพยากร ตั้งแต่ คน วัตถุดิบ เครื่องจักร และกระบวนการผลิตสินค้าและบริการให้มีประสิทธิภาพสูงและตรงตามความต้องการของลูกค้า ตลอดจนบริหารเครือข่ายธุรกิจภายใต้ Supply Chain ได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรจาก Local สู่ Global

โดยในปีงบประมาณ 2563 จะเน้นเข้าไปส่งเสริมไมโครเอสเอ็มอี หรือรายย่อย และเกษตรอุตสาหกรรม โดยจะร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และกองทุนหมู่บ้าน คัดเลือกผู้ประกอบการเข้าสู้โครงการพัฒนา ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้ตั้งเป้าร่มกับ กสอ. พัฒนาเอสเอ็มอีการเกษตรให้ได้ 1 หมื่นราย ขณะที่กองทุนหมู่บ้านมีสมาชิกกว่า 13 ล้านคน ซึ่งจะต้องคัดเลือกผู้ที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการ โดย กสอ. ตั้งเป้าในปี 2563 จะพัฒนาเอสเอ็มอีให้ได้ไม่น้อยกว่า 6 หมื่นราย สร้างมูลค่าเพื่มทางเศรษฐกิจจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การประหยัดพลังงาน การลดต้นทุน และการเพิ่มนวัตกรรมให้กับสินค้า มีมูลค่า 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท

“กสอ. จะร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยคาดว่ากลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการชุมชนที่ได้รับการยกระดับการบริหารจัดการเชิงอุตสาหกรรมจะมีความเข้มแข็ง สร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15%”นายกอบชัยกล่าว

Advertisement

สำหรับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 ได้รับงบประมาณรวมทั้งสิ้น 1,280 ล้านบาท สามารถพัฒนาผู้ประกอบการ สถานประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนกว่า 6 หมื่นราย พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้กว่า 3 พันผลิตภัณฑ์ สร้างและเชื่อมโยงเครือข่าย 35 กลุ่ม คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเกินเป้าที่ตั้งไว้ในช่วงแรก 1.3 หมื่นล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image