ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯนำพนักงานวางดอกไม้-ผลไม้โปรด ไว้อาลัย‘ช่วงช่วง’แพนด้ายักษ์ตาย
วันที่ 18 กันยายน 2562 ที่หน้าส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ น.สพ.สุเมธ กมลนรนารถ รองผู้อำนวยการ องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายวิทยา สิงห์คำ และ น.ส.อุฬาริกา กองพรหม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นำทีมผู้บริหารและพนักงานส่วนต่างๆ ของสวนสัตว์เชียงใหม่ ร่วมวางช่อดอกไม้สด พวงมาลัย และตะกร้าผลไม้ของโปรดแครอท หน่อไม้ แอปเปิ้ล องุ่น ที่หน้ารูปปั้นหมีแพนด้า เพื่อแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ ‘ช่วงช่วง’ หมีแพนด้าเพศผู้ อายุ 19 ปี เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นผู้บริหารและพนักงานต่างร่วมกันเขียนคำอำลา ‘ช่วงช่วง’ ลงในกระดาษสีขาวแผ่นเล็กๆ ด้วยข้อความที่แสดงออกถึงความรักและผูกพันต่อหมีแพนด้าที่เห็นมาตั้งแต่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่ปี 2546 อาทิ ขอให้ช่วงช่วงไปสู่สุคติ ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปเป็นเทวดาน้อยบนสวรรค์ หลับให้สบาย พ่อช่วง รักและอาลัย ซึ่งทุกคนต่างมีน้ำตาซึมในระหว่างร่วมไว้อาลัย
น.สพ.สุเมธ กล่าวว่า วันนี้เรามาร่วมกันไว้อาลัยแก่ช่วงช่วงที่ตายจากพวกเราไป แม้เราจะเสียใจ ที่ผ่านมาช่วงช่วงได้ทำหน้าที่ของตนเองได้ดีที่สุดแล้วในฐานะทูตสันถวไมตรี และในความเป็นจริงช่วงช่วงถือว่าชรามากแล้ว ในส่วนของการชันสูตรหรือพิสูจน์สาเหตุการตายของช่วงช่วง มีการบันทึกข้อตกลงกันไว้ในเอ็มโอยูอย่างชัดเจนระหว่างรัฐบาลจีนและไทยมีการวางกฎเกณฑ์เอาไว้เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ว่าจะต้องทำร่วมกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจีนจำนวน 5 คน มีกำหนดการเดินทางมาถึงเชียงใหม่ภายในวันนี้เวลาประมาณ 22.00 น. รวมทั้งสัตวแพทย์ของสวนสัตว์เชียงใหม่ 4 คน และจากฝ่ายอนุรักษ์และวิจัย องค์การสวนสัตว์อีก 2 คน รวม 11คน ที่จะร่วมกันพิสูจน์ความจริงถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงของช่วงช่วง แต่เบื้องต้นคงมีการประชุมหารือกันสั้นๆ เพื่อวางแผนการทำงาน ก่อนที่จะดำเนินการพิสูจน์ทราบในเช้าวันที่ 19 กันยายนนี้
น.สพ.สุเมธ กล่าวอีกว่า สำหรับร่างของช่วงช่วงนั้น มีการเขียนไว้ชัดเจนว่าหมีแพนด้าเป็นสมบัติของประเทศจีน ก็ต้องนำกลับประเทศจีน เพราะการมาของช่วงช่วงและหลินฮุ่ยเป็นเรื่องข้อตกลงของรัฐบาลสองประเทศในฐานะทูตสันถวไมตรี และสวนสัตว์เชียงใหม่เป็นเพียงสถานที่รองรับเพื่อการวิจัยและเลี้ยงดูเขาเท่านั้น
“การผ่าชันสูตรคงไม่นาน แต่ว่าการจะนำชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์อาจต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์จึงจะทราบผล และการผ่าพิสูจน์ร่างของช่วงช่วงที่แช่แข็งอยู่ภายในโรงพยาบาลสัตว์ ในสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยคาดว่าการผ่าพิสูจน์จะทำให้เจ้าหน้าที่ทราบเบื้องต้นคร่าวๆ ว่ามีอวัยวะภายในส่วนใดที่บกพร่อง หรือผิดปกติเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะต้องนำชิ้นเนื้อส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ ในประเทศไทย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบผล”
ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องจากแฟนคลับชาวจีนให้ส่งหลินฮุ่ยกลับประเทศจีนนั้น น.สพ.สุเมธ กล่าวว่า เป็นเรื่องการตัดสินใจของรัฐบาลจีนและไทย คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับสวนสัตว์เเชียงใหม่ เพราะเรื่องการนำหมีแพนด้าช่วงช่วงและหลินฮุ่ยมาเมืองไทยเป็นของรัฐบาลสองประเทศ ปกติประวัติแพนด้าจะมีอายุได้ประมาณ 20 ปี การที่ช่วงช่วงมีอายุมาถึง 19 ปี ถือว่าเก่งแล้ว ดูจากประวัติพ่อช่วงช่วงอายุ 20 ปี ส่วนแม่อยู่ได้ 19 ปี เท่ากับช่วงช่วงเอง การการดูแลหลินฮุ่ยต่อไปก็ต้องบอกว่าที่ผ่านมาเราดูแลดีมาและเต็มที่ หากเทียบอายุกับคนช่วงช่วงก็จะมีภาวะชรา ซึ่งมีระบบการกลืนอาหาร การสำลักการหายใจ ข้อบกพร่องคล้ายกับมนุษย์เรา ช่วงช่วงก็เคยเป็นคือมีการสำลักมาก่อน ตอนนี้ถ้าเทียบก็คูณ 5 เท่ากับช่วงช่วงอายุ 95 ปีเท่ากับคน ถือว่าชรามากแล้ว
“ในส่วนของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจีนและในส่วนของทางการจีนมีการเขียนบทความและแสดงความเสียใจมาแล้ว คล้ายๆ ท่าทีของสวนสัตว์เชียงใหม่ ทุกคนก็เสียใจ ไม่ได้มีอะไรที่น่ากังวล ไม่ได้มีอะไรเป็นเรื่องการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนยังคงดำเนินไปเช่นเดิม” น.สพ.สุเมธ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 16.00 น. นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่สาธารณรับประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ จะเดินทางมาร่วมวางดอกไม้เพื่อแสดงความอาลัยต่อการจากไปของช่วงช่วง แพนด้ายักษ์สัญลักษณ์ความผูกพันที่ดีงามของไทยและจีน
ในขณะที่หลินฮุ่ย แพนด้าเพศเมีย ยังคงออกแสดงที่ส่วนจัดแสดงตามปกติ และยังคงกินอาหารและมีท่าทางสบายใจ ท่ามกลางเด็กๆ ที่เดินทางมาเยี่ยมหมีแพนด้า ซึ่งครอบนักท่องเที่ยวชาวจีนจากปักกิ่งที่เดินทางมาเข้าชมและร่วมไว้อาลัยบอกว่า รู้สึกเสียใจที่ช่วช่วงจากไปเร็วกว่าที่ควร และแสดงความเห็นว่าสงสารหลินฮุ่ยที่ต้องขาดเพื่อนเพียงตัวเดียวไปอย่างไม่มีวันกลับ
