“บูทิค คอร์ปอเรชั่น” เดินหน้าเสนอขายหุ้นระดมทุนกว่า 167 ล้านหุ้น

นายปรับชะรันชิงห์ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บีซี) ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสร้าง ดำเนินงาน และขายในอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เตรียมที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ไอพีโอ) และเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตามแผนที่วางไว้ การระดมทุนในครั้งนี้จะนำเงินไปลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพในอนาคต รวมถึงจ่ายคืนหนี้สิน จากปัจจุบันที่มีหนี้เงินกู้จากสถาบันทางการเงินอยู่ราว 2,000 ล้านบาท และมีดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 100 ล้านบาทต่อปี และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

นายปรับชะรันชิงห์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯมีโครงการที่กลุ่มบริษัทก่อสร้าง ดำเนินงาน และจำหน่ายแล้ว 6 โครงการ ได้แก่ โรงแรมโอ๊ควู้ด อพาร์ทเม้นท์ ทริลเลี่ยนท์ สุขุมวิท 18 กรุงเทพฯ, โรงแรมโอโซ พัทยา จ.ชลบุรี, ศูนย์การค้าเรนฮิลล์ สุขุมวิท 47 กรุงเทพฯ, โรงแรมไฮแอท เพลส ป่าตองภูเก็ต, ศูนย์การค้าซัมเมอร์ฮิลล์ พระโขนง กรุงเทพฯ และ โครงการอาคารสำนักงานให้เช่า ซัมเมอร์ฮับ รวมมูลค่าโครงการ 3,525 ล้านบาท และรวมมูลค่ากำไรจากการขายโครงการประมาณ 1,626 ล้านบาท

นายปรับชะรันชิงห์ กล่าวว่า ในขณะที่บริษัทฯมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนา 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2562 ไปจนถึงไตรมาส 4 ของปี 2564 ได้แก่ โครงการวิลล่า 2 เป็นวิลล่า 1 หลัง บริเวณหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต คาดจะเริ่มให้บริการในไตรมาส 3 ของปี 2562, โครงการศูนย์การค้าและสำนักงานให้เช่า Summer Point คาดจะเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ของปี 2563, โครงการโรงแรมเชียงใหม่ นิมมาน 2 ถ.ห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่ คาดจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ของปี 2564, โครงการโรงแรมเชียงใหม่ นิมมาน 3 ถ.ห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ของปี 2564, โครงการโรงแรม บนถนนสุขุมวิท 16 คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ของปี 2563, โครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ บนถนนสุขุมวิท 36 คาดจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ของปี 2564, โครงการโรงแรมกมลา 1 บริเวณหาดกมลา จ.ภูเก็ต คาดจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 3 ของปี 2564, โครงการโรงแรมกมลา 2 บริเวณหาดกมลา จ.ภูเก็ต คาดจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2 ของปี 2564

นายปรับชะรันชิงห์ กล่าวว่า สำหรับโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการมีทั้งหมด 9 โครงการ ได้แก่ โรงแรมซิทาดีนส์ สุขุมวิท 8 กรุงเทพฯ, โรงแรมซิทาดีนส์ สุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ, โรงแรมซิทาดีนส์ สุขุมวิท 16 กรุงเทพฯ, โรงแรมซิทาดีนส์ สุขุมวิท 23 กรุงเทพฯ, โรงแรมโอ๊ควู้ด เรสซิเดนส์ สุขุมวิท 24 กรุงเทพฯ, โรงแรมโอ๊ควู้ด โฮเทล เจอร์นี่ย์ฮับ ภูเก็ต ป่าตอง สาย 3 จ.ภูเก็ต, วิลล่า 1 (วิลล่า 1 หลัง) บริเวณหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต อยู่ติดกับโรงแรมไฮแอท เพลส ป่าตอง จ.ภูเก็ต, โครงการโรงแรมโอ๊ควู้ด โฮเทล เจอร์นี่ย์ฮับ พัทยา จ. ชลบุรี, โครงการโรงแรมโนโวเทล เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นี่ย์ฮับ ถ.ห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่

Advertisement

“การรับรู้รายได้ของบริษัทฯ จะแบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วยรายได้จากการขายโครงการ ค่าธรรมเนียม การโอเปอร์เรตโครงการที่ยังไม่ขายออก โดยลักษณะการรับรู้รายได้และกำไรของบริษัทฯ จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อบริษัทฯ มีการจำหน่ายโครงการออกไป อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ตั้งเป้าขายโครงการต่อปีประมาณ 1-2 โครงการ โดยมั่นใจว่าความพร้อมในการพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพ และมีนโยบายคงการถือหุ้นในโครงการที่พัฒนาไม่น้อยกว่า 26% มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของมูลค่าทรัพย์สิน มีเป้าหมายอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน ไม่ต่ำกว่า 15% จะช่วยสร้างผลประกอบการที่ดีและมั่นคงให้กับบริษัทฯได้ โดยผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2559-2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 250.9 ล้านบาท 486.7 ล้านบาท 556.2 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตในปี 2560 ที่ 94% ในปี 2561 ที่ 14.3% และในงวด 6 เดือนแรกของ ปี 2561-2562 มีรายได้อยู่ที่ 431.3 ล้านบาท และ 675.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตกว่า 56.7%”นายปรับชะรันชิงห์ กล่าว

นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (บีซี) กล่าวว่า หลังจากนี้ บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น จะเดินหน้านำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับกองทุน และนักลงทุนสถาบัน ในช่วงต้นเดือน ตุลาคมนี้ และจัดงานโรดโชว์พบนักลงทุนรายย่อย ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ โดยมั่นใจว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง และผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ และจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในช่วงต้นเดือนพฤษจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม บีซีจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 167,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นไม่เกิน 33% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯส่วนการจัดสรรให้แก่ กองทุนและนักลงทุนสถาบัน ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ แต่เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 30-40%

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image