สกู๊ป น.1 : ‘คิดก่อนสร้าง’ ไอเดีย “หมู่บ้านหรู” พ้นท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมวลน้ำไหลมารวมกันที่จังหวัด จนทำให้เกิดน้ำท่วมในเขตชุมชน ที่อยู่ติดกับแม่น้ำมูลและแม่น้ำมูลน้อย

สร้างความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก ต้องอพยพหนีน้ำท่วมมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวและตามบ้านญาติ

แต่ที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก ตามประสาหมู่บ้านของเศรษฐี โดยเฉพาะหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งคือ หมู่บ้านจัดสรรเดอะริเวอร์ ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ที่อยู่ติดกับแม่น้ำมูลน้อย แต่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ถูกน้ำท่วม

Advertisement

ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรเดอะริเวอร์ ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ชื่นชมในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ทั้งๆ ที่แม่น้ำมูลน้อยเอ่อล้นตลิ่งเป็นบริเวณกว้าง ไหลท่วมพื้นที่โดยรอบหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นเกาะกลางน้ำเพียงแห่งเดียว

นายวิทวัส วัฒนธรรม กรรมการบริหาร บริษัท เอนิว เอสเตท (จำกัด) ผู้บริหารหมู่บ้านจัดสรรเดอะริเวอร์ เปิดเผยถึงความสำเร็จในการป้องกันน้ำในพื้นที่ 300 ไร่ของหมู่บ้าน ว่าตอนที่ริเริ่มโครงการจะทำหมู่บ้านจัดสรรเดอะริเวอร์ ปัญหาสิ่งที่เรากังวลหนึ่งในนั้นคือน้ำท่วม ปัญหาที่ระดับน้ำ ก็เลยต้องหารายละเอียดอ้างอิงว่าเราจะทำยังไงเพื่อป้องกันปัญหานี้ ก็เลยหาข้อมูลปัญหาเรื่องน้ำท่วมย้อนหลังของจังหวัดอุบลราชธานีไปประมาณ 100 ปี พบว่าปี พ.ศ.2521 ที่น้ำท่วมหนักสุด แต่เราก็เจอปัญหาอีกหนึ่งว่า ตำแหน่งที่วัดแถวๆ นี้ไม่มีระดับอ้างอิงให้เรา เลยออกแบบในเชิงเปรียบเทียบ เราเปรียบเทียบน้ำท่วมปี 2521 กับปี 2545 พบว่าต่างกันระหว่าง 1.90-2.00 เมตร โดยตัวเลขประมาณนั้น แล้วมาดูปี 2545 ของที่นี่ น้ำท่วมอยู่ประมาณไหน

ปรากฏว่า ปี 2545 ด้านหน้าของโครงการน้ำกำลังปริ่มที่ระดับถนนพอดี น้ำไม่ได้ขึ้นสูงเหมือนปีนี้ เลยเปรียบเทียบประมาณว่าปี 2545 สูงเท่าปี 2521 ณ บริเวณนี้ควรจะสูงอีกประมาณ 2 เมตร เราก็เลยดีไซน์ระดับบ้านของเรา เราจะอ้างอิงที่ระดับ 2 เมตรเป็นเกณฑ์

ด้าน นายณัฐวุฒิ ธัญนิพัทธ์ กรรมการบริหาร บริษัท เอนิว เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า ระบบป้องกันน้ำท่วมของหมู่บ้านเป็นโครงการบนเนื้อที่ 300 ไร่ ซึ่งต่อไปจะมีหลายๆ หมู่บ้านเกิดขึ้นในบริเวณนี้เต็มพื้นที่ วิธีการของเราคือจะทำหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านให้มีเขื่อนกันน้ำท่วมอยู่รอบโครงการ เมื่อไหร่โครงการทุกโครงการมาต่อกันหมดทุกโครงการ จะทำหน้าที่แบบเขื่อนเพื่อนบ้านของอีกโครงการหนึ่ง เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่โครงการที่นี่ขึ้นเต็มจะสามารถป้องกันน้ำท่วมได้

ฉะนั้น เมื่อไรที่โครงการเราแล้วเสร็จหมด จะมีเขื่อนที่เป็นเขื่อนถาวร เป็นเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กก็จะต่อไปเรื่อยๆ จบครบพื้นที่แล้วเราจะสามารถกันน้ำท่วมได้ในระยะยาว

“ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาซื้อสิ่งแรกที่ถูกถามมากก็คือปัญหาเรื่องน้ำท่วม เรื่องสภาพแวดล้อมจะเป็นแบบไหน เรามีความมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมหมู่บ้านอย่างแน่นอน สิ่งที่เราจะพยายามแจ้งกับลูกค้าทุกท่านให้คำมั่นสัญญาว่าที่นี่น้ำจะไม่ท่วม เพราะเรามั่นใจในแนวคิดในการออกแบบของเรา เราไม่ได้อยู่ดีๆ คิดจะทำโดยไม่มีรายละเอียดอ้างอิง และเราเองก็มั่นใจว่าเทคโนโลยีในการบริหารน้ำไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการมีการบริหารจัดการน้ำได้ดีขึ้น ระหว่างที่น้ำกำลังล้นตลิ่งได้จัดเจ้าหน้าที่ก่อคันดินยกสูงประมาณ 2 เมตร และในตัวหมู่บ้านจะมีแนวกระสอบทรายสูงประมาณ 1 เมตร ป้องกันไว้อีกชั้น นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ประจำจุดพร้อมจัดชุดเฝ้าระวัง ทำให้ไม่มีน้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้านŽ”




“เมื่อหมู่บ้านถูกน้ำล้อมไว้ทั้งหมด หมู่บ้านกลายเป็นเกาะกลางน้ำ ซึ่งในช่วงน้ำท่วมเราก็พยายามดูแลผู้อยู่อาศัยประมาณ 120 ยูนิต เกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่การเดินทางเข้า-ออก มีบริการรับส่งด้วยรถที่สูงขึ้นและมีบริการเรือและดูแลเกือบ 24 ชั่วโมง เรามีลูกบ้านที่ออกเช้าสุด 7 โมงเช้า กลับดึกสุดหลังทำงานประมาณ 5 ทุ่ม
เรามีการบริการให้แจ้งเอาไว้ก่อนล่วงหน้า เรามีวิธีการสื่อสารกับผู้อยู่อาศัยตลอด มีกลุ่มไลน์สามารถสื่อสารได้ตลอด ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย ลูกบ้านส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจค่อนข้างเยอะ ข้าราชการประมาณ 2-3%”Ž นายณัฐวุฒิระบุ

ถือเป็นต้นแบบการก่อสร้างหมู่บ้านที่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนดำเนินการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image