สถานีคิดเลขที12 : ลงเรือแป๊ะ : โดย ปราปต์ บุนปาน

เพิ่งได้อ่าน “ลงเรือแป๊ะ” หนังสือเล่มใหม่ของรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม

หากให้สรุปภาพรวม นี่คือหนังสือที่ฉายภาพความขัดแย้ง-ความเปลี่ยนแปลงของสังคมการเมืองไทยในรอบครึ่งทศวรรษหลัง ซึ่งตามความเห็นของอาจารย์วิษณุ ความไม่ลงรอยจำนวนมากได้ถูกแก้ไข การเปลี่ยนผ่านหลายอย่างได้ดำเนินไปโดยราบรื่น

ไฮไลต์ของเล่มน่าจะอยู่ที่สายสัมพันธ์ระหว่างผู้เขียนกับ “แป๊ะ” คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ถ้าไม่นับภารกิจ “ราชการ” ระหว่างอดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกับอดีตนายทหารยศพลตรีเมื่อหลายปีก่อน

Advertisement

อาจารย์วิษณุเคยเป็นตัวแทนกลุ่มที่ “กลุ้มใจกับเหตุการณ์บ้านเมือง” ซึ่งขอเข้าพบเพื่อนำเสนอ-แลกเปลี่ยนความเห็นว่าด้วย “ทางออกประเทศ” กับ ผบ.ทบ. ณ ขณะนั้น เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2557

ภายหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน นักกฎหมายมือฉมังของประเทศ ก็เข้าไปช่วยงาน คสช. ก่อนจะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีใน “ครม.ประยุทธ์ 1”

หากใครอยากรู้จักตัวตน “นายกฯ ประยุทธ์” ในมุมมอง “รองฯ วิษณุ” ขอแนะนำให้อ่านบทที่ชื่อว่า “มารู้จักนายกฯ ลุงตู่กันหน่อย”

Advertisement

อาจารย์วิษณุสรุปบุคลิกลักษณะเด่นๆ ของนายกรัฐมนตรี ออกมาได้ในหนึ่งย่อหน้ายาว ดังนี้

“พลเอกประยุทธ์เป็นคนเด็ดขาด พูดคำไหนคำนั้น กล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย ใครอย่าไปท้าอะไรเป็นอันขาด ขณะเดียวกันก็เป็นคนสนุก ร่าเริง เปิดเผย ตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบใครก็สามารถบอกผู้นั้นได้ตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อมว่าผมไม่ชอบคุณ ไม่ใช่คนปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่คนชนิดยอมให้น้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอก เพราะทั้งน้ำขุ่นน้ำใสจะกระฉอกออกมาจนเห็นได้ชัด ความเปิดเผยโปร่งใสนี้กระมังที่ทำให้มักเก็บอารมณ์ไม่อยู่ พอขุ่นใจก็จะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ออกอาการหงุดหงิดอย่างเปิดเผยให้เห็นแต่หายเร็ว โดยเฉพาะเมื่อแสดงอาการหงุดหงิดออกไปแล้วก็ดูจะโอ่โถงโล่งแจ้งสบายใจลืมเรื่องเก่า ในขณะที่คนฟังอาจจะเพิ่งเริ่มหงุดหงิด”

อย่างไรก็ดี รองนายกฯ มือกฎหมาย ตั้งข้อสังเกตว่าอาการเก็บอารมณ์ไม่อยู่ของนายกฯ ยามเผชิญหน้ากับเหล่านักข่าวนั้น บางครั้งก็เป็นความโกรธจริงๆ ทว่าหลายคราว เป็นเพียงมุขตัดเกมสื่อ

แต่เมื่อสังคมสับสนระหว่างอาการหงุดหงิดจริงกับการเย้าแหย่ ก็ทำให้นายกฯ “เสียบุคลิก” ดังนั้น ระยะหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จึงเริ่ม “คูลดาวน์ลง”

อีกหนึ่งลักษณะสำคัญของนายกฯ ได้แก่ การเป็นคนอ่านหนังสือเร็ว จับประเด็นไว ไม่ชอบฟังคำอธิบายที่ยืดยาวเยิ่นเย้อ

ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็น “คนคิดเร็ว” หรือ “คิดปรู๊ดปร๊าด” ไป 2-3 ชั้น ว่า “เรื่องนี้มาไม้ไหน จะไปทางไหนต่อ และจะเกิดอะไรขึ้น ผลในทางการเมือง กฎหมาย งบประมาณ ภาระติดพันเป็นอย่างไร กระทบใครบ้าง ถ้ามีผลอย่างนี้ควรแก้ดักทางไว้ก่อนอย่างไร”

และเนื่องจากเป็นนายทหารที่ต้องเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขลูกน้อง ผสานกับการกระเซ้าเย้าแหย่ด้วยลูกกุ๊กกิ๊กต่างๆ มาก่อน

พล.อ.ประยุทธ์ จึงติดนิสัย “เป็นกันเอง” เช่นนี้ มาจนถึงช่วงทำงานการเมือง ซึ่งรองนายกฯ วิษณุ มองว่า “ถ้าไปหยิบเพียงบางจุดตัดตอนมาย้ำก็อาจดู ‘แปลกๆ’ อยู่บ้าง” อาทิ การไปรำวงกับชาวบ้าน เต้นคุกกี้เสี่ยงทายกับ BNK48 หรือพูดกับแพะ เป็นต้น

เพราะคนรักนายกฯ อาจถือว่านี่คือความไม่ถือตัว แต่หากใครอยากยั่วโมโห ก็คงบอกว่านายกฯ เพี้ยน

นี่เป็นจุดแข็ง-จุดอ่อนบางส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปรากฏในหนังสือ “ลงเรือแป๊ะ”

ซึ่งผู้เขียนไม่น่าจะเป็นเพียงผู้โดยสารธรรมดา หากเป็นฝีพายรายสำคัญ ถึงขั้นเข้าไปช่วยคัดท้าย-ถือหางเสือเรือเป็นบางวาระ ช่วยวิดน้ำออกเป็นบางโอกาส

และเอาเข้าจริง ก็เป็นผู้ร่วมออกแบบลำเรือ ขุดคลอง และสร้างแม่น้ำ (5 สาย) เลยด้วยซ้ำ

ปราปต์ บุนปาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image