ปิดดีลใหญ่รอแบงก์ชาติอนุมัติชื่อใหม่“ทหารไทยธนชาต”

ปิดดีลใหญ่รอแบงก์ชาติอนุมัติชื่อใหม่“ทหารไทยธนชาต”

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารทหารไทย เปิดเผยในงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 23 กันยายน ถึงความคืบหน้าการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารธนชาต และธนาคารทหารไทย ว่า ธนาคารจะจัดหาเงินทุนสำหรับการควบรวมกิจการทั้งสิ้นประมาณ 130,000 ล้านบาท โดยวันที่ 24 กันยายนนี้ ธนาคารจะมีการสรุปรายละเอียดราคาการออกหุ้นเพิ่มทุน สัดส่วน 80% ของวงเงินรวม ส่วนแรกจำนวน จำนวน 42,500 ล้านบาท เป็นการออกและเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร ตามใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ โดยราคาใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมราคาจะต่ำกว่าตลาด ส่วนวงเงินอีก 64,000 ล้านบาทจะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ โดยเป็นวงเงินสำหรับธนาคารธนชาต 57,000 ล้านบาท ที่เหลือกระจายให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ที่สนใจ ส่วนอกี 20% ของวงเงินการเพิ่มทุน ราว 30,000 ล้านบาท จะออกตราสารหนี้

นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP กล่าวว่า แผนการควบรวมยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้โดยการซื้อขายกิจการระหว่างกันจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม ขณะนี้ได้กำหนดชื่อธนาคารใหม่เรียบร้อยแล้วจะใช้ชื่อ ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาตแบงก์ ส่วนชื่อย่อที่จะใช้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยู่ระหว่างพิจารณาและจะมีการประกาศต่อไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ให้ดำเนินการธนาคารแห่งใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้ หลังจากที่ดีลการซื้อขายแล้วเสร็จ จะเป็นกระบวนการปรับโครงสร้างภายใน การกระบวนการควบรวมสาขา โดยธนาคารแห่งใหม่จะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในปี 2564 ซึ่งโครงสร้างผู้บริหารธนาคารแห่งใหม่ นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAPจะไปดำรงตำแหน่ง รองประธานคณะกรรมการธนาคารใหม่ นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAP ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการธนาคารใหม่ ส่วนนายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารใหม่ และนายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยจะช่วยกันการบริหารงาน ส่วนบุคลากรยินยันว่าจะไม่มีการปลดพนักงาน อย่างไรก็ดี แต่ละปีจะมีพนักงานลาออกอยุ่แล้ว แต่การรับพนักงานใหม่อาจจะลดลง เพราะมีพนักงานในส่วนงานที่ยังทับซ้อนกัน

“หลังจากโอนกิจการในเดือนธันวาคม ธนาคารทหารไทยจะเป็นผู้ถือธนาคารธนชาต 100% จากนั้นจะดำเนินการเตรียมความพร้อมโอนกิจการ ระบบงาน การรวบสาขา บุคลากร และอื่นๆ จนกระทั่งธนชาตโอนกิจการทั้งหมดให้ทหารไทยแล้วเสร็จทั้งหมด จากนั้นธนาคารธนชาตจะหยุดกิจการ คืนใบอนุญาตประกอบการธนาคารพาณิชย์ในปี 2564” นายบันเทิง กล่าวและว่า หลังจากที่ขายหุ้นธนาคารธนชาตให้ธนาคารทหารไทยและการขายหุ้นส่วนอื่น บริษัทจะได้เม็ดเงินทั้งหมดประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท จะมีการนำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อหุ้นบริษัทเพิ่มวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท เพื่อสร้างผลตอบแทนจากราคาหุ้นบริษัทที่จะเพิ่มขึ้นส่วนอีก 5,000 ล้านบาท จะจ่ายปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้นบริษัทราคา 4 บาทต่อหุ้น โดยจะพิจารณากำหนดการจ่ายเงินปันผลพิเศษนี้ในช่วงเดือนธันวาคม ทั้งนี้ ยืนยันว่าแม้ว่าจะไม่มีธนาคารธนชาตแต่บริษัทคงมีสภาพคล่องและมีศักยภาพการขยายธุรกิจและสร้างรายได้เติบโตในอนาคต

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image